เปิดบริการทุกวัน Open Daily 7.00 -19.00

เปิดบริการทุกวัน Open Daily 7.00 -19.00

๗ กรกฎาคม ๒๕๕๔

74 จดหมายถึงเพื่อน "ชนะเป็นจ้าว แพ้เป็นโจร" หึหึ

โดย Lily Cu เมื่อ 4 กรกฎาคม 2011 เวลา 10:19 น.


เจี๊ยบเพื่อนรัก


ได้ยินมาว่า หน้าเพชของเธอมีเพื่อนๆสลิ่มเรียกร้องการรัฐประหารอีกครั้ง รวมทั้งการกล่าวหาว่าเพื่อไทยอยากล้มสถาบัน อะไร อะไรมากมาย ฉันรู้ว่า เพื่อนเธอส่วนใหญ่ก็คือพวกเราๆที่เป็นพวกมีการศึกษาซึ่งเป็นกลุ่มน้อยในประเทศนี้


เธอต้องเข้าใจนะ .. คนมีการศึกษาที่เป็นคนกลุ่มน้อย มักจะมองว่า เสียงส่วนใหญ่ในประเทศไทยไร้การศึกษาและจิตสำนึกต่อระบอบประชาธิปไตย ซึ่งมักจะเป็นคนบ้านนอกคอกนา ตามอีสาน เหนือ และ กลางบางส่วน


คนมีการศึกษาที่เป็นคนกลุ่มน้อยส่วนใหญ่ มักจะมองว่า คนไร้การศึกษาเหล่านั้น รับเงิน โดนหลอกโดยที่เขาไม่รู้ว่า ในขณะที่คนกลุ่มน้อยส่วนใหญ่เคร่งเครียดในการทำงานจึงมักดูละครทีวี เช่น มงกุฏดอกส้ม วนิดาเพื่อคลายเครียด ในขณะที่คนบ้านนอกที่การศึกษาน้อยๆทำงานมาหนักๆ มักจะดูรายการทางการเมืองเพื่อเพิ่มหยักสมองให้ต้วเอง โอกาสการศึกษาเขาน้อยแต่เขาก็ตะเกียกตะกายของเขา


การไม่รู้ในพฤติกรรมของคนบ้านนอกไร้การศึกษา มันทำให้คนมีการศึกษากลุ่มน้อยๆเช่นพวกเขาอาจจะลืมเลือน พื้นฐานของประชาธิปไตย คือ หนึ่งเสียง หนึ่งสิทธิ และคนทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน และค่าของความเป็นคนของสิทธิในการเลือกผู้แทนตามระบอบประชาธิปไตย ไม่ใช่สิทธิที่มองค่าของคนด้วยการศึกษา ฐานะ หรือจังหวัดที่ตัวเองอยู่


คนมีการศึกษาที่เป็นคนกลุ่มน้อยมองว่า ประเทศไทยไม่เจริญ ไม่พัฒนาเสียที เพราะต้องเสียเงินไปกับการพัฒนาคนจน ไร้การศึกษาที่อยู่บ้านนอกนั้นๆ


เลือกผู้แทน ก็เลือกแบบโง่ๆ ความจนทำให้รับเงิน


ดังนั้น การที่ทหารเข้ามารัฐประหาร เป็นการปลดปล่อยความโง่เง่าของคนจนไร้การศึกษาส่วนใหญ่ในประเทศ


พวกเขาก็หาข้ออ้างมากมายมา support การรัฐประหารของทหาร เช่น อร๊ายยย พวกนี้มันเผด็จการทางรัฐสภา พวกนี้มันพวกมีอิทธิพลในท้องถิ่น พวกนี้มันพวกอำนาจใหม่กะมาโกง(ทั้งๆที่อำนาจเก่าโกงชิบหาย แต่กูแกล้งลืม)หรือแม้กระทั่ง พวกนี้มาล้มสถาบัน(ควย คิดได้ไง ใครจะไปล้ม)


(เราต้องย้อนคิดนิดหนึ่งว่า เพื่อนกลุ่มน้อยมากการศึกษาของเรา รู้ว่าเราอยู่ในกลุ่มใหญ่...ยังยัดเยียดข้อหาล้มสถาบันให้กลุ่มใหญ่..มันโหดแค่ไหน ที่เพื่อนทำเพื่อนกันเอง หือ)


คนมีการศึกษากลุ่มน้อยในประเทศ ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าจะได้ชื่อว่า ฉลาด สงสัยเรียนมาก แต่ขาดการวิเคราะห์ (อาจจะมัวแต่หาผัว(เหมือนฉัน)) มักจะมองและเชื่อในกลุ่มคนที่ออกสื่อ ว่าทักกี้โกง (คตส ที่อยู่มาตั้งแต่พลเอกสุรยุทธ์ จน ธาริตDSI ทำไมจับโกงไม่ได้สักที) การซื้อที่ดินของคุณหญิงอ้อก็เป็นการเซ็นยินยอมให้สามีตามทะเบียนสมรสได้ซื้อที่ดินทั้งๆที่ ซื้อในราคาที่สูงกว่าราคาตั้งต้น .... ศาลบอก การซื้อขายไม่ผิด แต่ทักกี้ผิด ... คนมีการศึกษากลุ่มน้อย เลือกจะจำว่า โกง


เพราะจริงๆแล้ว พวกเขาก็ไม่มีปัญญาซื้อที่ดินเหล่านั้นหรือไม่ก็ไม่มีสามีหรือภรรยา เลยไม่รู้กรรมวิธีการซื้อขายที่ดินว่า การทำนิติกรรมร่วม สามีหรือภรรยาต้องเซ็นยินยอมด้วย มิฉะนั้น นิติกรรมนั้นจะกลายเป็นโมฆียะ


คนมีการศึกษาส่วนน้อยที่ได้ไปเที่ยวต่างประเทศอย่างเราๆ มักจะไม่จำว่า ภายใต้การนำของทักกี้ 5 ปี สุวรรณภูมิเสร็จทันที ทันใช้ ทั้งๆที่แผนการสร้างมีมาตั้งแต่ ยี่สิบปีก่อน


รถไฟใต้ดินที่สมัยลาวาลิน แผนงานสามสิบปีก่อน ก็เสร็จภายใต้ทักกี้


แต่พวกเขาไม่ได้สนใจความสะดวกสบายเหล่านั้น เพราะพวกเขามองภาพรวมของประเทศ ว่าคนจน ยังจนอยู่ ...... (เหมือนจะใจดี คิดถึงคนจน)


แต่พอทักกี้มาสร้าง OTOP ให้คนจนได้มีกิน สามสิบบาทรักษาทุกโรคให้พวกเขาได้หาหมอดีดีบ้าง พวกคนมีการศึกษาส่วนน้อยกลับไม่ชอบใจ เพราะอะไร เพราะกูหาคนใช้หรือยามรักษาความปลอดภัยไม่ได้ กูหาส้มตำกินยากขึ้น


ดังนั้น ทักกี้จึงกลายเป็น ผี ที่ไม่ได้มาจับหัว ที่เหล่าพวกคนมีการศึกษาส่วนน้อย ... ทักกี้หลอหลอน เพราะจะทำให้คนจนไร้การศึกษาเหล่านั้นมาเท่าเทียมพวกเขา


เพราะอะไร เพราะพวกเขาเรียนหนังสือให้สูงๆ เพื่อจะได้ไปเป็น Elite ที่อยู่ในชนชั้นสูงหรือชนชั้นศักดินา คนพวกนี้ เวลาได้ไปงานสังคมสูงๆ จะชอบมากกกก เพราะเขาอยากไต่เต้า (แต่พวกเขาไม่รู้ตัวหรอก)


ทักกี้มาทำให้คนจนไล่มาเป็นคนชั้นกลางเท่าพวกเขา ..ชิบหายสิ ..ในขณะที่พวกคนมีการศึกษาที่ยังไต่ไปสังคมชนชั้นสูงไมไ่ด้เลย


ทักกี้น่ากลัวมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก


จึงเป็นที่มาของการไล่ส่งทักกี้ และ ช่วยๆกันหลอนกันเข้าไป หลอนกันเข้าไป


ดังนั้น คนส่วนน้อยที่มีการศึกษาสูงเหล่านี้จะไม่ยอมรับเหตุผลใดๆทั้งสิ้น นอกจาก กูเกลียดทักษิน และทักษิณโกง และ ทักษิณล้มสถาบัน


การเลือกตั้งที่ผ่านมา สองถึงสามครั้ง ประชาชนโง่ๆจนๆส่วนใหญ่ก็ยังเลือกอย่างเดิม


แต่เราก็ได้รัฐประหาร 49 เพราะต้องการมาปลดแอ๊กความโง่ของคนส่วนใหญ่ โดยได้รับความยินดีตอบรับจากคนกลุ่มน้อยผู้มากการศึกษาในเมืองกรุ'


ตามมาด้วยตั้งรัฐบาลในค่ายทหารปี 51 ปลายๆ ได้รัฐบาลอภิสิทธิมา ... จนเกิดการฆ่ากลางเมือง (คนจนตาย 91 ศพ... ซึ่งไม่ร้ายแรงเท่า คนมีการศึกษา 9 ศพตายในรถตู้ที่รถซีวิคชนหรอกจ๊ะ)


พูดไปก็โดยตอบโต้ว่า แล้วที่ทักกี้ฆ่าคนขายยาเสพติดล่ะ ไหนจะ มัสยิดกรือเซะอีกล่ะ คนกลุ่มน้อยผู้มากการศึกษาก็ไม่ได้รับรู้(ทำไมไม่รู้)ว่า มีคณะกรรมการในสมัย พลเอกสุรยุทธ์ และรัฐบาลอภิสิทธ์เองได้สรุปแล้วว่า ทักกี้ไม่ผิด ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง


การเลือกตั้งครั้งนี้ เสียงขาดเกินกึ่งหนึ่ง


ถ้าดูสถิติปีนี้เทียบกับปีการเลือกตั้งที่คุณสมัครนำพรรคพลังประชาชน คนเลือก ปชป ลดลงประมาณ2 ล้านคน และ พท เพิ่มขึ้น 2 ล้านคนโดยประมาณ


แต่พวกเขาชนกลุ่มน้อยที่มีการศึกษาก็คร่ำครวญความพ่ายแพ้ ...



เช่น


"รัฐสภาง่อย...คงต้องฝากความหวังของเสียงส่วนน้อย ไปยังการมีส่วนร่วมทางตรงของภาคประชาชน :("


"แล้วตระกูลเค้า...ก็กลับมาเอาคืน..."


วนกลับมาแบบนี้รอบที่ 2 แล้วนะครับ ผมไม่รู้ว่าเสียงส่วนใหญ่ของเค้าคิดอะไรนะครับ แต่ที่แน่ๆไม่ค่อยคิดถึงประเทศไทยแน่เลย


ยังไม่จบหรอกค่ะ พวก vote no เขาจะยังมีกิจกรรม ไล่เพื่อไทย อีกรอบค่ะ


และบางคนก็เรียกร้องรัฐประหารอีกครั้ง


เจี๊ยบอย่าไปเครียดอะไรกับการเรียกร้องรัฐประหารของเขาเลย


เขาหาเหตุผลได้เสมอ ปล่อยเขาไป


อย่าไปให้คนฉลาดเขามาโง่อย่างเรา ซึ่งเป็นคนส่วนมากของประเทศแล้วชนะการเลือกตั้งครั้งนี้เลย แอบหัวเราะ หึหึ ดีกว่า หึหึ


ชนะเป็นจ้าว แพ้เป็นโจรเรามารอดูคนแพ้ชวนตีดีกว่า


เรามาเตรียมพร้อมกับปิดประเทศของทหารก่อนดีกว่า


มันเอาแน่!!!!!!!!!



หลิ่มหลี ลืมหลิ่ม


ปล ฝากรูปไว้ เผื่อเพื่อนใครอยากจะแบ่งประเทศ... จะได้แยกแยะกันถูก .. ว่าแต่เพื่อนบ้านสีฟ้านี่ พม่าทั้งแนวเลยเนอะ เธอว์


เครดิต เครือเนชั่นค่ะ

๓๐ พฤษภาคม ๒๕๕๔

รับสมัคร ผู้ร่วมเดินทางแสวงบุญสู่ภูเขาไกรลาส


เดินทาง จาก ลาซา สู่ ไกรลาส

16 วัน รับสมัคร อีก 2 คนครับ


กำหนดการ ประมาณเดือนกันยายน




๑๗ เมษายน ๒๕๕๔

กล อด สู

หนังสือเล่มใหม่ของ อุเทน มหามิตร

บางส่วนของบท Improvise



นอกจากโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน


โรคลำไส้ไวต่อความรู้สึก (Irritable Bowel Syndrome; IBS)


ยังมีโรคข้อ และข้อกระดูกสันหลังยึดติด (Ankylosing Spondylitis ; AS)


เล่มหน้าพี่เพิ่มโรคนี้เข้าไปนั่งแท่นด้วยนะครับ

๓ มีนาคม ๒๕๕๔

Niwano Peace Prize

Mr. Sulak Sivaraksa

of the International Network of Engaged Buddhists, INEB

to receive Niwano Peace Prize

The Niwano Peace Foundation will award the twenty-eighth Niwano Peace Prize to Mr. Sulak Sivaraksa of Thailand. The presentation ceremony will take place in Tokyo, Japan, on Thursday, May 19th, at 10:30 a.m. In addition to an award certificate, Mr. Sivaraksa will receive a medal and twenty million yen.

Sulak Sivaraksa was born in 1933 in Thailand, to a family of Chinese ancestry. Educated in Thailand, England, and Wales in law and other disciplines, he

returned to Bangkok in 1961. Sulak’s long career has seen him using his intellectual gifts to propel the concept and movement of Engaged Buddhism.

Sulak has worked as a teacher, scholar, publisher, activist, and founder of many organizations. He has authored more than a hundred books and monographs in

Thai and English.

To avoid undue emphasis on any particular religion or region, every year the Peace Foundation solicits nominations from people of recognized intellectual and

religious stature around the world. In the nomination process, some 700 people and organizations, representing 125 countries and many religions, are asked to

propose candidates. Nominations are rigorously screened by the Niwano Peace Prize Committee, set up in May of 2003 on the occasion of the 20th Anniversary

of the Niwano Peace Prize. The Committee presently consists of twelve religious leaders from various areas of the world, all of whom are involved in movements

for peace and inter-religious cooperation. Here are some comments by members of the Peace Prize Committee on the selection of Mr. Sulak Sivaraksa:

- Sulak’s is a voice of reason and ethics, speaking truth to power and highlighting tangible issues that touch on human dignity. His voice carries farand has influenced thinking at many levels. (Ms. Katherine Marshall)

- He sees Buddhism as a questioning process. A Buddhist should question everything including oneself, look deeply, and then act from that insight. He is

among a handful of leaders worldwide working to revive the socially engaged aspects of spirituality. (Rev. Phramaha Boonchay Doojai)

- He is a courageous Buddhist activist, also he is intellectual enough to persuade people to promote the importance of social awareness among Buddhists

all over the world. He is the founder of many organizations, including the Asian Cultural Forum on Development and the International Network of Engaged Buddhists. His work and achievements certainly qualify him for the prize.(Rev. Nichiko Niwano)

The Niwano Peace Prize

The Niwano Peace Foundation established the Niwano Peace Prize to honor and

encourage individuals and organizations that have contributed significantly to

inter-religious cooperation, thereby furthering the cause of world peace, and to

make their achievements known as widely as possible. The Foundation hopes in

this way both to enhance inter-religious understanding and cooperation and to

encourage the emergence of still more people devoted to working for world peace.

The Prize is named in honor of the founder and first president of the lay

Buddhist organization Rissho Kosei-kai, Nikkyo Niwano. For Niwano, peace was

not merely an absence of conflict among nations, but a dynamic harmony in the

inner lives of people as well as in our communities, nations and the world. Seeing

peace as the goal of Buddhism, Niwano devoted much of the last half of his life to

promoting world peace, especially through inter-religious discussion and

cooperation.

Past Niwano Peace Prize recipients are:

1. Archbishop Helder P. Camara (1983)

2. Dr. Homer A. Jack (1984)

3. Mr. Zhao Puchu (1985)

4. Dr. Philip A. Potter (1986)

5. The World Muslim Congress (1987)

6. Rev. Etai Yamada (1989)

7. Mr. Norman Cousins (1990

8. Dr. Hildegard Goss-Mayr (1991)

9. Dr. A. T. Ariyaratne (1992)

10. Neve Shalom/ Wahat al-Salam (1993)

11. Paulo Evaristo Cardinal Arns (1994)

12. Dr. M. Aram (1995)

13. Ms. Marii K. Hasegawa (1996)

14. The Corrymeela Community (1997)

15. Ven. Maha Ghosananda (1998)

16. The Community of Sant’Egidio (1999)

17. Dr. Kang Won Yong (2000)

18. Rev. Abuna Elias Chacour (2001)

19. Rev. Samuel Ruiz Garcia (2002)

20. Dr. Priscilla Elworthy (2003)

21. The Acholi Religious Leaders’ Peace Initiative (2004)

22. Dr. Hans Küng (2005)

23. Rabbis for Human Rights (2006)

24. Dharma Master Cheng Yen (2007)

25. His Royal Highness Prince El Hassan bin Talal (2008)

26. Rev. Canon Gideon Baguma Byamugisha (2009)

27. Ms. Ela Ramesh Bhatt (2010)

The Niwano Peace Foundation

(The Niwano Peace Foundation was chartered in 1978 to contribute to the

realization of world peace and the enhancement of a culture of peace. The

Foundation promotes research and other activities based on a religious spirit and

serves the cause of peace in such fields as education, science, religion and

philosophy. The Foundation’s endowment of about 3.8 billion yen makes possible

the Niwano Peace Prize and other activities such as grants, research projects,

lectures, symposia, and international exchanges. The Niwano Peace

Foundation is a government-recognized charitable organization. Contributions)