๗ ธันวาคม ๒๕๕๐
You must have heard of the place that if we get to, we will have everything.
Happiness and dreams that's been waiting for will wait for us at the destination.
And only a single ticket is needed for multiple return trips.
But no one has ever returned to tell me anything.
So I wonder if it's real, want to see it for myself.
Even if it's by foot I'm willing to go, if there will be something upon arrival.
No matter what I must pay to get the ticket, I will.
and so I paid with everything I have just for someone to return it all to me and say...
* This ticket is not for me even though it is sold to all. It's just that this train does not have a place for me so I cannot travel.
(Repeat *)
Like I said, I'm dedicated and travelled in the direction that he travelled.
No matter the fatigue, the heat, or the cold, I'm not afraid. With a proud heart I will endure
and in not too long the destination will become apparent.
So I clamber on to reach that destination that is disappearing.
It probably is not real, that destination for someone like me.
The ticket that everyone has, probably does not exist for someonelike me.
And so I turn my back to the way that I came from, and there I saw someone looking. When walked back, I saw that it was the same peson that told me repeatedly, stressingly that...
(Repeat *)
เคยได้ยินใช่ไหมว่าที่นึงถ้าไปถึงเราจะมีทุกอย่าง
ความสุขความฝันอะไรที่เฝ้ารอ จะรอเราอยู่ที่ปลายทาง
และต้องใช้เพียงตั๋วเดินทางแค่ใบเดียว และมันก็ไปกลับได้ตั้งหลายครั้ง
แต่ไม่เคยจะมีผู้ใดที่เคยไป จะกลับมาเล่าอะไรให้ฉันฟัง
ก็เลยสงสัยว่าจริงหรือไม่จริง อยากไปเจอกับตัวซักครั้งหนึ่ง
จะต้องเดินทางไกลด้วยเท้าฉันก็ยอม หากมันจะมีอะไรเมื่อไปถึง
ต่อให้ตั๋วเดินทางจะแพงสักเท่าไร ต้องจ่ายด้วยอะไรจะไปหามา
และฉันจึงจ่ายหมดเท่าชีวิตที่ฉันมี เพื่อให้ใครบางคนมาส่งคืนและบอกว่า
* ตั๋วใบนี้ไม่ได้มีสำหรับฉัน แม้เค้าจะขายให้ทุกคนได้เท่ากัน เพียงแต่รถขบวนนี้ไม่มีที่ให้กับฉัน จึงไม่มีสิทธิ์เดินทาง
(ซ้ำ *)
อย่างที่เคยบอกไปฉันทุ่มเท และออกเดินไปตามทางที่เค้าไป
จะเหนื่อยจะร้อนจะหนาว ฉันไม่กลัว กับใจทระนงจะทนไหว
และในไม่ช้าไม่นานก็มองเจอว่ามีปลายทางอยู่ไม่ไกล
ก็เลยตะเกียกตะกาย เพื่อไปเจอสุดท้ายปลายทางที่หายไป
มันคงไม่มีจริงแท้ และแน่นอน ปลายทางให้กับคนอย่างฉัน
ว่าแต่ตั๋วเดินทางที่ใครๆ ก็มี คงไม่ได้มีให้กับคนอย่างฉันเหมือนกัน
จึงหวนคืนไปยังทางที่เดินมาก็มีใครมองอยู่ตรงนั้น
พอเดินกลับไป ก็เจอคนเดิม จึงบอกกับฉัน ย้ำๆ ซ้ำๆ ว่า
(ซ้ำ *)
๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๐
ปฏิบัติการอัปยศ
นานเท่าไรแล้วที่ Everest ได้หลับใหลมายาวนานอย่างพ้นยุคพ้นสมัย
กระทั่งไม่นาน มนุษย์ตัวจ้อยก็เกิดความ อหังการ บ้าบิ่น ท้าทายธรรมชาติ โดยเฉพาะสิ่งที่ใหญ่ที่สุด สูงที่สุด
มนุษย์น้อยตัวจ้อย พากันนำพาตีนน้อยๆ ตีนแล้ว ตีนเล่า เหยียบย่ำไปบนยอดเขาที่เขาว่ากันว่ามันสูงที่สุด
บ้างเพื่อทำตามฝัน บ้างอยากมีชื่อเสียงโด่งดัง และในที่สุดก็เป็นตำนานว่า ถ้ามนุษย์ในชาติใดได้พาเอาตีนน้อยๆขึ้นไปปั้มบนยอดเขานั้นได้สำเร็จ รอยตีนและธงชาติ คือเกียรติ ศักดิ์ศรีของประชาชนในชาตินั้น
ในมุมมองของคนที่รักภูเขา Everest นับเป็นความฝันอันสูงสุดยุคทุกสมัย ของผู้คนทุกประเทศ แน่นอน มันเป็นเรื่องที่มีเกียรติอย่างยิ่งกับการที่มนุษย์ตัวเล็กๆยอมแม้กระทั่งที่จะสละชีวิตตัวเองเพื่อทำตามความใฝ่ฝันที่สูงส่ง มันเป็นการเดินทางที่ทำให้มนุษย์ธรรมดาได้เข้าใกล้ความยิ่งใหญ่ของพระผู้เป็นเจ้า และก็เข้าใกล้นรกที่แสนโหดร้ายในเวลาเดียวกัน ในแง่บทเรียนระหว่างทาง ผมเชื่อว่ามันสอนเราเรื่องความอ่อนน้อมถ่อมตนมากกว่าอหังการ การที่คนไทยถูกบริษัทที่คิดแต่เรื่องกำไร และสถานีโทรทัศน์ที่เห็นเงินคือพระเจ้า สร้างปาหี่จูงจมูกคนไทยขึ้นมาบนยอดเขาอันศักดิ์สิทธิ์ โดยพวกเขาอ้างว่า นี่เป็น ปฏิบัติการเกียรติยศ
เกียรติยศนี้ จะสอนอะไรแก่คนล้าหลังคลั่งชาติส่วนใหญ่ ที่ยังเชื่อว่า พม่า นำทองจากกรุงศรีอยุธยาของพวกเขาไปเสียหมดสิ้น (เขาคงเชื่อว่าถ้าทองพวกนั้นยังอยู่เขาอาจจะไม่จนบัดซบอย่างนี้)
การใช้คำว่า ปฏิบัติการเกียรติยศ ของสถานีโทรทัศน์ที่ควรจะถูกสั่งปิดไปตั้งนานเช่น ไอทีวี กับบรรษัทที่ร่ำรวยอย่าง เอไอเอส และบรรษัทข้ามชาติใหญ่ๆที่ต่างมีผลโยชน์แอบแฝงและโจ่งแจ้ง ในการพิชิตยอดเขาครั้งนี้ นับเป็นปฏิบัติการสุดอัปยศที่สะท้อนให้เห็นถึงความอัปลักษณ์ของระบบทุนนิยม
แน่นอนว่า คำว่าเกียรติยศ ในครั้งนี้มีความหมายอย่างที่อาจารย์นิธิเคยแปลไว้ คือเป็นเรื่องของหน้าตา หาใช่ศักดิ์ศรี หรือเกียรติที่มาจากรากของคำว่า Dignity แต่อย่างใดไม่ เพราะคนดูก็ไม่เห็นว่า ปฏิบัติการถ่อสังขารครั้งนี้ จะชี้ให้คนไทยเห็นถึง ความดี ความงาม ความจริง แต่อย่างใด
การจัดฉากครั้งนี้ทำในรูปแบบของเกมโชว์ เต็มไปด้วยโฆษณาแฝง และพยายามโยงว่าเรื่องนี้ถ้าทำสำเร็จจะเป็นหน้าเป็นตาของประเทศ เป็นเกียรติยศของประชาชนประเทศชาติ
ถ้าปฏิบัติการนี้มีข้อขัดข้อง มีคนตาย สำนักพระราชวังจะมอบน้ำหลวงอาบศพ หรือจะเอาธงชาติคลุมศพกลับประเทศอย่างสมเกียรติอย่างนั้นละหรือ ?
เราควรยึดปาหี่ที่บรรษัทมือถือสร้างขึ้นมา เป็นสรณะของประเทศอย่างนั้นหรือ ?
กลุ่มโอเปกจะยอมลดราคาน้ำมันถ้าคนกลุ่มนี้ขึ้นไปสูดอากาศบนนั้นได้จริงหรือ?
สมัคร หมีควายมันจะยอมทำลายตัวเองเพื่อสันติสุขของโลกอย่างนั้นหรือ?
จะมีคนไทยกี่คนมองเห็นถึงผลประโยชน์ของบรรษัทที่คิดเกมนี้ขึ้นมา และกี่คนจะเห็นอันตรายของวิธีคิดแบบชาตินิยม
อย่างนี้อย่างไรก็ตาม การเดินไปบนภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์ ด้วยหัวใจที่บริสุทธิ์ ย่อมเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์
สำหรับคนที่ได้ย่างเท้าขึ้นไปบนนั้นแล้วละก็ ....อย่างน้อยเมื่อกลับลงมาหัวใจย่อมมีความลุ่มลึก
ย่อมมองเห็นโลกในทรรศนะถีที่พ้นไปจากมายาคติไม่มากก็น้อย
ไม่เหมือนบรรษัทชั่วช้าที่ต้องการเห็นแค่ กำไร ที่แม้จะเพิ่มขึ้นทุกปีบนความบรรลัยของประชาชน
คุณพิบูลศักดิ์ ละครพล เดินทางมาแจกลายเซ็นต์ถึงในร้าน
เพื่อนจากแม่ฮ่องสอนและเชียงราย สองในหกพันกว่าคนที่เดินทางมาสอบเพื่อบรรจุเป็นข้าราชการ
6000 กว่าคน คัดเอา สองร้อยกว่าคน ใครจะเป็นผู้โชคดี เฮ้อ......ประเทศไทย
มุมใหม่ในร้านเก่า
โมโม่ก็มาเยี่ยมชม
และเมื่อปลอดลูกค้าเราก็ทำตัวตามสบายอย่างที่เห็น
วันนี้นับว่าฤกษ์ไม่ดี
ปั่นจักรยานริมกว๊านดีๆ
ดันเจอผู้ว่าราชเกิน (คนหัวล้านเสื้อเหลือง)
และซวยหนักไปอีกเมื่อเจอ รัฐมนตรี
(ท่องเที่ยวกับกีฬา มันไม่เห็นจะเกี่ยวกันเลย)
(หัวหงอก เสื้อขาว : เขามาจากการแต่งตั้งของทหารบ้าอำนาจ)
บรรดาลูกกระจ้อกที่ถูกเกณฑ์มาเป็นหน้าม้า
จากการสูดดม พบว่า เขาตั้งวงเสวนากันในเรื่องที่ฮิตมากในพะเยา
นั่นคือการท่องเที่ยว คุยเรื่องเดิมว่า จะลากคอคนจังหวัดอื่นมาจังหวัดเราได้อย่างไร
ที่สำคัญ พวกมันมาแล้วต้องควักเงินใช้ในจังหวัดเราด้วย
ทนฟังอยู่นานกว่าสองนาที ถ่ายรูปพวกนี้เสร็จก็มาเจอกับ....หิน
หิน...ก้อนใหญ่มาก ดูแล้ว ไม่น่ามีความสวยงาม
แต่มาอยู่ริมกว๊านพะเยา
ถ้าผมเป็นท่าน รมต. และบังเอิญแหกตาเห็นหิน ผมต้องถามผู้ว่าทันที
อย่างสุภาพว่า ...นี่มันหินเหี้ยอะไรครับ?
พูดถึงเรื่องหิน... มีโครงการมาให้ดู
ชื่อโครงการ : ปรับแต่งภูมิทัศน์ ถนนร่มรื่น เมืองน่าอยู่
หลักการและเหตุผล
ชัยภูมิของจังหวัดพะเยานี้นับเป็นเพียงเมืองผ่านไปยังจังหวัดอื่น ที่ผ่านมา เศรษกิจของเมืองพะเยาไม่มีการไหลเวียนโดยสะดวกเท่าที่ควร ตามทฤษฎีแล้วการท่องเที่ยว นับเป็นคาถาอันวิเศษ ศักดิ์สิทธิ์ จะสร้างรายได้ เม็ดเงินมหาศาลให้หมุนเวียนใน จ.พะเยา ส่วนที่ว่าเม็ดเงินจะไปหมุนเวียนในกระเป๋าผู้ใดบ้างนั้น ไม่ใช่ภาระหน้าที่จะต้องทราบ เอาเป็นว่า เงินจะเข้ามาในจังหวัดเราก็แล้วกัน
จากเหตุผลดังกล่าว ทางผู้บริหารเมืองเห็นว่า พะเยา จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องหาจุดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์
จากผลการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ณ.โรงแรมแห่งหนึ่งย่าน พัฒพงษ์ ทางผู้บริหารได้ มีมติว่า
หิน แสดงอัตลักษณ์และตัวตนของชาวพะเยาได้ดีที่สุด ดังเหตุผลดังต่อไปนี้
1. แต่โบราณนานมา ช่างแกะหินทรายเมืองพะเยานับเป็นสกุลช่างที่เก่งที่สุด หินจึงเป็นตัวแทนที่ดีที่สุด
2. หินแสดงถึงความหนักแน่นของชาวพะเยาที่มีมาแต่โบราณ (ตำนานเล่าว่า พะเยาต้องเป็นเมืองร้างกว่าหกสิบปีเพราะพากันหนีคราวเงี้ยวห้าร้อยคนบุกเมือง แต่ตกใจหนีเพราะมีคนตะโกนว่ามากันห้าพัน )
3. แสดงถึงความวิริยะอุตสาหะอันเป็นพื้นนิสัยคนพะเยา
และ ในวโรกาสที่พระเจ้าอยู่หัวจะมีพระชนมายุครบ 80 พรรษา
ดังนั้น ทางจังหวัด จึงได้จัดทำโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์ในเมืองพะเยา
ให้มีความร่มรื่น สมกับที่เป็นเมืองน่าอยู่ ทั้งนี้ จะต้องสอดคล้องกับแนวคิดเรื่องหิน ดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น
ช่วงนี้ ผมพยายามคิดแทนผู้บริหาร
หลังจากที่สังเกตเห็นว่า มีผู้นำหินก้อนใหญ่สุดอลังการ
มาวางไว้ในร่องกลางถนนสี่เลน บริเวณถนนสายหลักสายหนึ่งในเขตจังหวัดพะเยา
ผมร่างโครงการนี้ขึ้นมาเพื่อให้ตัวผมเองสบายใจ
ปลอบใจตัวเองว่า การที่หิน ไปอยู่กลางถนน มันเป็นเรื่องที่มีเหตุ มีผล
ด้วยถนนเส้นนี้เป็นถนนสายหลักผ่านไปได้ทั้ง
จ.ลำปาง จ.เชียงราย และอำเภอห่าเหวอีกมากมายในจังหวัดนี้
ผู้สัญจรจึงไม่ใช่แค่เพียงแต่ชาวพะเยาเท่านั้น
ที่สามารถมองเห็นความมหัศจรรย์นี้
แต่ประชากรในจังหวัดอื่นต่างก็ล่ำลือ
ถึงความงามอันยิ่งใหญ่ของหินดังกล่าว
ตามทฤษฎี
สิ่งที่ควรจะอยู่บริเวณเกาะกลางถนนมากที่สุดน่าจะเป็น ไม้พุ่มเตี้ย
เพราะไม้ดังกล่าวนอกจากจะ ไม่บดบังทัศนะวิสัยของผู้ขับขี่แล้ว
ยังช่วยชะลอความเร็วและรองรับแรงกระแทก
กรณีรถเสียหลักลงเกาะกลางถนน
ข้อมูลกระซิบ
หินดังกล่าวถูกเก็บไว้ในโกดังของผู้รับเหมารายหนึ่งมานาน
นานจนต้องคิดกันว่า จะระบายของชิ้นนี้ออกไปอย่างไรดี
และในที่สุด มันถูกกระจายไปวางตามจุดต่างๆทั่วเมืองพะเยา
ในนามแห่งความสวยงามในสายตามนุษย์บางพวก
อย่างไรก็ดี เมื่อมีหินมาตั้งตระหง่านกลางถนนอย่างนี้
ไม่นาน อุบัติเหตุที่คาดฝันก็พลันจะบังเกิด
ถึงเวลานั้น ผู้รับผิดชอบควรเป็นใคร
ลองใช้หัวแม่ตีนคิดกันเล่นๆว่า เมื่อรถที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูง
เสียหลักวิ่งเข้าชนหินก้อนใหญ่ๆ สภาพศพคนขับจะเป็นอย่างไร?
ในกรณีที่ท่านไม่มีหัวแม่ตีน ท่านน่าจะมีเศษสมองติดใต้กะโหลกอยู่บ้าง ....
แนะนำว่าลองนำหินไปบดหยาบๆรับประทานแทนข้าว
อาจจะช่วยให้เศษสมองใต้กะโหลกเพิ่มปริมาณขึ้น
อีกทั้งอาจช่วยให้ต่อมรับทัศนีย์ภาพ
เห็นความสุนทรียะบนโลกมากกว่าเศษเงินที่ได้จากผู้รับเหมา
ภาวนาให้หินก้อนสุดท้าย ตั้งตระหง่านบนแต่เพียงบนหลุมฝังศพของท่าน
(ในกรณีที่ท่านยังมีแผ่นดินอยู่)
ก่อน......ทุกอย่างจะสายไป
ก่อน.......เมืองของเราจะมีแต่หินโสโครก
ก่อน.....คนใจหิน ..จะทำระยำตำบอนกับเมืองของเรา
พวกเราเหล่ายอดมนุษย์ ถึงเวลาแล้วที่ต้องปกป้องเมืองของเราจาก
ผู้บริหารใจทราม กับผู้รับเหมาโลภมาก
โย่.....
๒๘ ตุลาคม ๒๕๕๐
นานๆ เราถึงจะอัพเดท บล็อกของเราทีหนึ่ง
เป็นเวลากว่าเดือนแล้วที่เราไม่ได้ดำเนินการแจ้งข่าวสารความเคลื่อนไหวแก่มวลสมาชิกนอร์บูลิงการ์
บัดนี้ ทางสำนักใคร่ขอแจ้งข่าวแก่ท่าน เป็นหัวข้อๆ ดังนี้
ข่าวสั้นทันโรค
ไฟไหม้บ้านคุณอาน
เมื่อเวลาประมาณ สามทุ่ม ของวันที่ ยี่สิบ ตุลาคม ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านไม้ชั้นเดียว
ในเขตชุมชนบ้านแท่นดอกไม้ (บริเวณเดียวกันกับนอร์บูลิงการ์)
จากการถามคนข้างๆพบว่า
ในระยะนี้ คุณอานเจ้าของบ้าน มีอาชีพรับซื้อของเก่า แต่ไม่เคยขาย เศษกระดาษทั้งหมดที่หาได้นำมาเก็บไว้ในบ้านตัวเอง ด้วยกลัวคนจะขโมย เมื่อสืบไปก็พบว่า คุณอานมีบรรพบุรุษมาจากเกาะใหหลำ หมู่บ้านเดียวกันกับอากงของผู้เขียนในอดีต คุณอาน ช่วยทำงานจิปาถะ ให้กับอากงผู้เขียน จนได้พบกับหญิงชาวบ้านแถบนั้นชื่อ คุณเหลียว(ซึ่งอายุมากกว่าคุณอานเกือบ ยี่สิบปีเห็นจะได้) ต่อมาก็ได้แต่งงานกัน ในวัยเด็ก เมื่อผู้เขียนไปบ้านยายก็จะพบคุณเหลียว นั่งคุยอยู่กับยายเสมอ กลับมาที่ไฟไหม้ ต้นเพลิงครั้งนี้มาจากสายไฟฟ้าที่ต่อเชื่อมเข้าด้านหน้าบ้านคุณอาน เกิดลัดวงจร ขึ้นมาทำให้ลุกลามกับบ้านไม้ และเศษกระดาษที่คุณอานสะสมมาเกือบปีเพื่อรอเวลาขายบ้านคุณอานอยู่ในซอยแคบๆหลังบ้านผู้ใหญ่บ้าน ที่มีชื่อว่า กลิ้ง ในเวลานั้น ผู้ใหญ่บ้าน กลิ้งไปที่ไหนไม่ทราบ รถดับเพลิงที่ระดมเข้ามาเข้าซอยไม่ได้ คุณเหลียว ซึ่งในขณะเกิดเหตุ มีอายุ เจ็ดสิบเก้าปี เวลาเดินต้องใช้เครื่องช่วยเดิน กลับเข้าไปเก็บของในบ้าน ต่อมาไฟโหมลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว จนไม่มีใครเข้าไปใกล้ได้อีกเลย
คุณอาน ที่เมาเป็นปกติทุกเย็น ใช้ถังน้ำพยายามราดน้ำดับจนไฟลุกลามร้อนแรงจนต้องถอยร่น ทิ้งภรรยาให้อยู่ในกองไฟ
อันที่จริงคืนนั้น ผู้เขียนรู้ว่าไฟไหม้ แต่ไม่คิดว่าจะมีใครเป็นอะไร จนรุ่งเช้าก็เจอคุณอานเดินร้องให้ตามถนนและบอกผมว่า ช่วยบอกพ่อมึงด้วย ไฟไหม้บ้านเรา เมียเราตายอยู่ในบ้าน เราสงสารเมียเรา คุณอานในขณะนั้นอายุหกสิบกว่าปี อยู่กินกับภรรยามากว่าสี่สิบกว่าปี เมื่อผมเดินไปดูบ้านคุณอาน ซึ่งผมก็เคยไปครั้งแรก ก็เห็นเสาดำๆกับฐานบางส่วนที่เป็นปูนเท่านั้น เท่าที่ฟังชาวบ้าน ยายเหลียวนั้น เหลือเพียงส่วนลำตัวเท่านั้นที่ไม่ไหม้
เจ้าหน้าที่เก็บใส่ถุงและชาวบ้านก็ร่วมกันจัดงานศพให้กลางหมู่บ้าน เผาไปเมื่อวันพุทธที่ผ่านมา
มีเรื่องเล่าต่อคือ หลังงานเผา ชาวบ้านขับมอเตอร์ไซด์ ออกมาจากซอย พบกับสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง นั่นคือ ตำรวจตั้งด่านรอชาวบ้าน ที่ไม่คิดจะใส่หมวกกันน๊อคไปร่วมงานศพยายเหลียว วันนั้น นอกจากชาวบ้านได้บริจาคเงินแก่ครอบครัวคุณเหลียวแล้ว ชาวบ้านยังได้ร่วมบริจาคเงินให้แก่ตำรวจผู้หิวโหยอีกด้วย
เครือข่ายแห่งนอร์บูลิงการ์ (Norbulingka Network)
ด้วยตระหนักว่า นอร์บูลิงการ์ไม่ใช่การขายตรง แต่งานของเราคือการสร้างเครือข่ายผู้เสพติดสินค้าของเรา
การสร้างเครือข่ายจึงเป็นภาระหน้าที่หลักอย่างหนึ่งของเรา ช่วงเกือบสองเดือนที่ผ่านมาลองดูนะครับว่า ภาระกิจของสองหนุ่มแดน บีมนั้นมีอะไรบ้าง
เมื่อบรีสเล็งเห็นคุณค่า ในการทำนิตยสารเมืองพะเยา
เพราะเราเป็นคนดี สวรรค์จึงมีตา บันดาลเราได้พบกับกลุ่มเด็กน้อยหน้ามน สามสี่คนน่ารัก ผู้มากความสามารถที่ตั้งใจเดินทางกลับมารับใช้บ้านเกิดเมืองนอนของตนเอง คนกลุ่มนี้ได้ทำนิตยสารในนาม ฮักพะเยาเม็คกาซีน นี่นับเป็นการฝันที่พบว่าพอตื่นมามันก็เป็นจริงนอร์บูลิงการ์ขอยืนหยัดเป็นกำลังใจแก่คนเหล่านี้อย่างออกนอกหน้า
กลางเดือน พฤศจิกายนนี้ พบกับพวกเขาแน่ๆครับ
เครือข่าย กวี นักเขียน ศิลปิน เมืองพะเยา
เมื่อเกือบหนึ่งเดือนที่ผ่านมาทางนอร์บูลิงการ์พะเยา ได้พบปะกับศิลปินเมืองพะเยา เพื่อทำการหารือเรื่องการจัดแสดงผลงาน
จากการประชุมไม่ได้ข้อสรุปอันใด แต่ถือเป็นการสร้างมวลมิตรเริ่มต้นแก่บรรดาศิลปินเมืองพะเยา
พบกลุ่มเด็กบ้าการ์ตูน
เมื่อหลายสัปดาห์ก่อนเช่นกัน ทางนอร์บูลิงการ์ได้พบปะกลุ่มเด็กรักการ์ตูนจากมหาวิทยาลัยนเรศวรพะเยา
ทั้งนี้ได้มีการวางแผนฉายหนังการ์ตูน แต่ไม่สำเร็จเพราะไม่มีโปรเจ็คเตอร์ และคนที่จะมาดู
หุ่นกันดั้มที่ทำเอง
เราจะขายหนังสือที่คนไม่ชอบอ่าน
หนึงในความฝันสิบสองประการของนอร์บูลิงการ์ที่ฝันไว้นานแล้ว มาบัดนี้ เราได้จำหน่ายหนังสือของสำนักพิมพ์ สวนเงินมีมา โกมลคีมทอง เสมสิกขาลัย ฟ้าเดียวกัน และอื่นๆ ที่เราเห็นว่าดี และรู้จักมักจี่กันกับสำนักพิมพ์เป็นการส่วนตัว ในช่วงเวลาอันเป็นมงคลอย่างนี้ ทางสำนักได้ลดราคาหนังสือบางส่วน 10 – 20 เปอร์เซ็นต์ เพื่อเป็นการกระตุ้นอารมณ์ และเอาอกเอาใจลูกค้าทุกท่านแต่ในช่วงนี้ถ้าเราถูกใจลูกค้าท่านใดเป็นพิเศษ เราก็จะมอบให้เฉยๆ เสียอย่างนั้น นี่เป็นการชิงโชคอีกรูปแบบหนึ่งใครจะทำไมเล่า สำหรับหนังสือของอุเทน มหามิตร ที่ลูกค้านานๆทีจะถามหาเข้ามาอย่างคับคั่งนั้น ทางร้านจะเร่งนำมาจำหน่ายโดยเร็วไว ให้ทันความต้องการของผู้บริโภคในตลาด ในช่วงไตรมาศสุดท้ายนี้
ชั้นหนังสือ่ลดราคา
ชั้นหนังสือไม่ลดราคา
ชั้นหนังสืออ่านเล่น
ร่วมงานความสุขมวลรวมประชาชาติ
แจ้งให้ลูกค้าทุกท่านทราบว่า วันที่ 20-28 พฤจิกายนนี้ เจ้าสำนักจะเดินทางไปราชการที่จังหวัดหนองคายและประเทศลาว
ลูกค้าท่านใดต้องการพบในช่วงเวลาดังกล่าวให้นั่งรถเมล์จากพะเยาไปลงจังหวัดอุดร และต่อรถมายังหนองคายอีกที
จากนั้นให้สืบที่อยู่กับประชาชนในจังหวัดนั้นเอาเอง หวังว่าท่านจะสนุกกับการค้นหาเรา
มีแต่เราเท่านั้นที่คอยสรรหากิจกรรมดีๆแบบนี้ให้ท่านเสมอ นั่นเป็นเพราะเรารักและเป็นห่วงท่านประหนึ่งญาติผู้ใหญ่นั่นเอง
นอร์บูลิงการ์ประกาศหนุนพรรคศิลปิน
ป้ายหาเสียงในห้องน้ำ
ผลการประกอบการ ประจำเดือนตุลาคม
ทางสำนักยินดีอย่างยิ่งที่จะแจ้งให้แก่ผู้หุ้น ลูกค้า และ คตส. ทราบว่า
ผลประกอบการประจำเดือนตุลาคม ออกมาเป็นดังนี้
รายรับ จาก ขนม กาแฟสด น้ำผลไม้ หนังสือ รวมทั้งสิ้น 25,000 บาท
รายจ่าย รวมค่าน้ำ ค่าไฟ เงินเดือนแม่บ้าน ค่าน้ำมันรถ วัสดุ อุปกรณ์ ประจำเดือน เบ็ดเตล็ด ทั้งสิ้น 94,000 บาท
จากสถานการณ์ดังกล่าว เจ้าสำนักจึงมีคำสั่งประกาศให้พื้นที่ร้านเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ
ซึ่งตามกฎหมายตราดาวสามดวง มีสิทธิ์อย่างชอบธรรมที่จะไม่จ่ายผลกำไรแก่ผู้ถือหุ้นทั้งรายใหญ่และเล็ก
ไม่จ่ายดอกเบี้ยแก่ธนาคาร เจ้าหนี้ ในและนอกระบบ รวมไปถึงภาษีทุกประเภท
ทั้งนี้ ขอความร่วมมือไปยังรัฐบาล ให้ลดราคานมข้นหวาน น้ำตาล น้ำมัน และลดดัชนีความโง่เขลาเบาปัญญา
ให้มาอยู่ต่ำกว่าเส้น บัดซบ จะเป็นพระคุณแก่ประชากรในแคว้นนี้อย่างยิ่ง
อนึ่ง ในระยะที่ผ่านมา ทางร้านได้พยายามมีบทบาทในการหนุนเสริมเรื่องศิลปวัฒนธรรม การศึกษา แก่ประชาชน อีกทั้งได้ดำเนินตามรอยพระราชดำริเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงเป็นเวลานาน แต่ไม่เคยได้รับการสนับสนุนใดๆที่เป็นรูปธรรมจากผู้ว่า นอนสอนง่าย ประจำจังหวัดนี้เลย จึงใคร่ให้ทางกระทรวงมหาดไถ สั่งลงโทษ ให้ผู้ว่านอนสอนง่าย คลานรอบสนามโรงเรียน ประจำจังหวัด พิทยาคม เป็นเวลา สี่ วัน เพื่อประจาน และเป็นเยี่ยงอย่างแก่เด็กและเยาวชน ไม่ให้ลุ่มหลงมัวเมากับไสยศาสตร์ และพุทธศาสนาแบบเพี้ยนๆต่อไป
หมอศิวัตร เขียนคอลัมดูดวงให้แก ฮักแม็คกาซีน
ทีมฮักแม็ค พบกับหมอดูชื่อดัง
ญาติมิตร เพื่อนฝูงในรอบเดือน
โมโม่ในอ้อมแขน
ว่าที่ ส.ส. พรรคพลังสุนัข
คุณหญิงสุดาโม่ เกยุราพัง เธอจะเป็นปากเสียงให้เหล่าสุนัขของประเทศนี้
มุมอินเตอร์เน็ต ตอนนี้ไม่ฟรีแล้วครับ
โมโม่ยามเย็น
มุมจากเคาเตอร์
มนตรา กับ พระสูตร
เด็กที่ซนที่สุดในพะเยา
เล่ากันว่าถ้าเด็กคนนี้มาอยู่ที่นอร์บูลิงการ์เพียงสามวัน ทุกอย่างจะบรรลัยด้วยมือน้อยๆของหล่อน
หมายกำหนดการ พิธีเปิดร้านนอบูลิงการ์อย่างเป็นทางการ
หลังจากเปิดร้านอย่างไม่เป็นทางการมาเกือบสองเดือน ทางคณะกรรมการบริหารและผู้จัดการฝ่ายการตลาดได้มติเป็นเอกฉันท์ ให้ทำพิธีเปิดร้านอย่างยิ่งใหญ่และเป็นทางการใน วันอาทิตย์ที่ 28 ตุลาคม 2550 เนื่องจากเป็นพิธีใหญ่ ทางร้านจึงไม่สามารถจะเชิญแขกผู้มีเกียรติทุกท่านมาได้ ทางสำนักจึงใคร่ประกาศกำหนดการพิธีเปิดร้านแก่ผู้สนใจดังนี้
เวลาบ่ายสามโมง ขับรถไปรับพระครูศรี หรือ พระอาจารย์สมคิด
บ่ายสามโมง สิบนาที ผู้จัดการยกบันไดมาวางไว้หน้าร้าน
บ่ายสามโมงสิบห้านาที พระปีนบันไดเจิม ทำพิธี สวดมนต์
บ่ายสามโมงยี่สิบนาที ผู้จัดการและแม่ผู้จัดการ รับพร
ถวายหนังสือและปัจจัย
บ่ายสามโมงยี่สิบห้านาที ถวายน้ำปาณะ ขับรถไปส่งพระกลับวัด
จึงขอ ทูลเชิญ กราบเรียนเชิญ เชิญ ทุกท่านมา ณ.ที่นี้ด้วย
ขออภัยที่ไม่ได้เชิญท่านถึงบ้านด้วยตนเอง
๒๑ กันยายน ๒๕๕๐
29 สิงหาคม เวลา 19.09 น. กลุ่ม คปน.หรือคณะปฏิรูปแห่งนอร์บูลิงการ์นำโดย คมผ. พัทรา(คมผ.คุณแม่ผม-ผู้เขียน) ได้เข้าทำการยึดอำนาจการบริหารจัดการร้านด้วยเหตุผลที่คณะบริหารเดิมนั้นฉ้อฉลเฉื่อยชา ล่าช้าผลการยึดอำนาจส่งผลให้ขั้วอำนาจเก่าในร้านพ้นสภาพอำนาจแห่งการตัดสินใจทุกประการ ทันทีที่ยึดอำนาจสำเร็จ คปน.ได้ออกคำสั่งคณะปฏิรูปฉบับแรก
กำหนดให้นอร์บูลิงการ์ต้องเปิดทำการทันทีีในวันจันทร์ที่ 3 กันยายน 2550 คำสั่งดังกล่าว
มีผลทำให้กำหนดการเปิดร้านจากเดิมที่กำนดไว้ในเดือนตุลาคมหรือพฤศจิกายนต้องเลื่อนเข้ามาและเปลี่ยนช่วงเดือนดังกล่าวเป็นพิธีการเปิดร้านแทน
ด้วยพระบารมีปกหัว ไหล่ ตูด ทำให้เพียงชั่วข้ามคืน นอร์บูลิงการ์ ก็พร้อมเปิดให้บริการแก่ประชาชนทุกหมู่เหล่าบัดนี้จึงขอแจ้งเตือนให้้ทราบว่านอร์บูลิงการ์ได้เปิดทำการตั้งแต่วันที่ 3 กันยายนศกนี้แล้ว
จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน
ทั้งนี้ขอให้เรือหาปลาขนาดเล็กงดออกจากฝั่ง และจงอยู่ในความสงบเสงี่ยมเจียมตัว
คำโปรยหน้าร้าน เปิดแล้วพ่อแม่พี่น้อง
สังเกตุให้ดีจะเห็นเฆฆลอยฟ่องบนร้าน
เมนูสามมิติ ทำเองถ่ายเอง ปริ้นติดคืนก่อนวันเปิดกะทันหัน
ตัวแทนจากบริษัท HP สิงค์โปรเข้าเยี่ยมชมแบบไม่รู้อิโหน่อิเหน่
ป้ายประกาศราคาขนม กำลังยื่นให้กระทรวงพานิชรับรอง
พระมัญชูศรี จากทิเบตแค้มป์
กัลยาณมิตรบูชามาจากอินเดียนำแหกด่านศุลกากร ขับรถนำมาให้ถึงพะเยา
เกมลับสมอง เล่นช่วงรอกินกาแฟใครทำได้เพิ่มราคาสินค้าทันที
เจ็ดเปอร์เซ็นต์โทษฐานข้ามหน้าข้ามตาเจ้าของร้านที่ไม่เคยทำได้
วันมหาปิติ ของ ลูกค้าเสื้อเหลือง
สติ้กเกอร์สิงโตที่ถอดแบบมาจากธงชาติทิเบต ช่างฝีมือใช้เวลาทำถึงห้าเดือน
ปัจจุบันได้รับค่าจ้างในการทำแล้ว
เมนูเครื่องดื่มส่วนหนึ่งในร้านนอร์บูลิงการ์
บัดนี้ได้เวลาอันเป็นมงคลฤกษ์แล้ว
เราขอขอบใจทุกท่านที่จะมาเยี่ยมเยียนเราในโอกาสอันใกล้นี้
จงรักษาสุขภาพให้ดี เพื่อจะอยู่ถึงวันที่ได้มาพบกับเรา
ขอขอบใจทุกท่าน
(ทุกคนยืน....ดนตรีบรรเลง) แต่ม แตม แต่ม แตม แต๊ม แต่ม