เปิดบริการทุกวัน Open Daily 7.00 -19.00

เปิดบริการทุกวัน Open Daily 7.00 -19.00

๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒

จันทรุปราคา

วันนี้วันพระ และท่าทางจะเป็นวันที่สำคัญทางพระพุทธศาสนา ดูในปฏิทินพบว่าเป็นวันมาฆบูชา จำไม่ได้แล้วว่าวันนั้นมีเหตุการณ์สำคัญอะไร ทั้งๆที่แม่ง ออกข้อสอบทุกปี แต่ก็ไม่เป็นไร วันนี้ได้มาเวียนเทียนกะ แจน สหายคนใหม่ที่อายุห่างกะผมถึง 13 ปี (น่าเจ็บใจคือผมอายุมากกว่าแจน)

การได้อยู่กะเด็กๆทำให้ผมได้มีพลังเสมอ ที่สำคัญมันทำให้ผมรู้สึกว่าผมก็ยังเป็นเด็กอยู่ โลกกลมๆก็พลันสดใสขึ้นเมื่อได้อยู่ท่ามกลางเด็กๆ ชีวิตเต็มไปด้วยความฝัน ความหวัง ชีวิตก็พลันมีชีวาขึ้น แม้ความจริงวันนี้ที่โรงพยาบาลจะบอกว่าผมเป็นทั้งเก้าท์ คอเรสเตอรอลสูง ความดันสูง แดกยาเป็นกระบุงเท่าคนอายุ 60

เอาเถอะ...สังขารจะเป็นยังไงก็ช่างหัวมัน ทุกวันนี้ก็ยังอยากจะได้ฟีโน่ซักคัน ใส่แว่นไฮโซ ใส่ที่ดัดฟัน ทำผมฟูๆ ซิ่งรถหนีตำรวจรถไปนั่งร้านนมสด แดกหนมปังปิ้ง สัมผัสความสวยงามของพระอาทิตย์ตก และตื่นเต้นเสมอกับความสดใหม่ของชีวิตในวันพรุ่งนี้

ตัดภาพมาที่วัดหลวง ...บรรยากาศเปี่ยมไปด้วยศรัทธา ผู้คนคึกคักเฮฮา รถขายซาลาเปา ขนมจีบ ปลาหมึกปิ้ง เครปญี่ปุ่น ลูกชิ้นปิ้ง ชานมไข่มุก หลากหลายละลานตาดุจดังเหล่าพระอรหันต์ที่มาชุมนุมกันมิได้นัดหมาย (น่าเสียดายที่เลยเวลาพระเณรจะกินได้แล้ว งานนี้พระก็เลย นั่งดูชาวบ้านฉันขนมกันด้วยอาการน้ำลาย ส.เสฐบุตร)

ถัดไปไม่ไกล จอฉายหนังขนาดยักษ์ตั้งตระหง่าน รอฉายหนังฉลองศรัทธาให้เหล่าพุทธบุตรผู้มีดวงตาเห็นธรรม ได้เมามันกันกับหนังบู๊ล้างผลาญอย่างเรื่อง เจ้าอาวาสระห่ำ กระหน่ำเณรเลือดสีโคลน(ตอน เสียงเพรียกของพระไตรปิฏกอาถรรพ)นัดกะสหายจักร ภูมิสิทธิ (ผมให้ฉายาเอง มาจากจิตรภูมิศักดิ์จูเนียร์) ไว้หน้าซุ้มประตูเวลาหนึ่งทุ่ม ผมรีบมาให้ทันนัดอย่างสุดความสามารถ ทั้งๆที่ตอนสระผมเห็นว่า อีกห้านาทีจะหนึ่งทุ่ม ไม่เป็นไร ผมสระต่อและก็เลิกดูนาฬิกาเสีย เพื่อจะไม่ต้องผิดนัดกะน้องนุ่ง

ขับรถมาวัดด้วยจิตสงบสำรวม ปาดหน้ามอเตอร์ไซค์มาสามคัน (แม่งขับกวนตีน) จอดหน้าวัด เดินไปหาเพื่อน พบว่ากะลังสนทนาธรรมอยู่กับพ่อค้าชาไข่มุก จึงขอโทษที่มาสายและมุ่งหน้าไปเวียนเทียนกัน มารู้ตัวอีกทีพบว่า ตังค์ที่ติดกระเป๋ามามี 3 บาทไม่มีพอสำหรับดอกไม้ธูปเทียน กล้องที่แบกมาด้วยไม่มีแมมเมอรี่สติ๊ก เพราะเอาไปเสียบกะคอมตั้งแต่เมื่อวาน สมแล้วที่กูเป็นศิษย์ติช นัท ฮันท์ มีสติตื่นรู้อยู่ทุกลมหายใจ เฮ้อ .. โครตจะมีสติเลยกู ลืมแม่งให้หมด โชคดีที่ยังใส่กางเกงมาเวียนเทียนนะมึง

เดินรอบวิหารด้วยจิตอันผ่องใสในรอบแรก จิตใสกระจ่างแวว วาว พร้อมชกต่อยกะพระเณรแถวนั้นได้ตลอด เพื่อนรักก็โทรมา(เพื่อนคนนี้อายุน้อยกว่า 10ปี) อะตอมโทรมาจากม.รังสิตบอกว่าวันนี้จะมีเงาโลกบังดวงจันทร์ จะให้ดีก็ถ่ายรูปไว้หน่อย ....

(...ไม่พลาดอยู่แล้วเหตุการณ์สำคัญของจักรวาล นับประสาแค่ขนาดตอนงูเห่าเข้ามาที่วัด ตอนอยู่ที่ประเทศลาว เณรยังมาลากคอผมไปถ่ายเลย ก่อนกลับมามีข้างคาวหน้าเหมือนหมูบินมาเกาะต้นไม้ในวัด พระก็เรียก โยมต้าร์ไปถ่ายรูป นี่คงคิดว่าเราทำงานอยู่นิตยสารแปลก แต่มันก็เป็นโอกาสมากกว่าวิกฤติ เพราะก็ไม่ได้รับอุบัติเหตุจากการถ่ายรูปอย่างนี้ซักที แถมยังได้เห็นอะไรแปลกๆดีด้วย หนุกดีไปอย่าง)





เวียนเทียนเสร็จก็สนทนาธรรมกับ จักร ภูมิสิทธิ์ ทุกครั้งที่คุยกัน เราจะคุยกันสัพเพเหระ แต่ก็น่าแปลกที่คุยกันไม่เคยต่ำกว่า ชั่วโมงทุกที เรื่องในจักรวาลที่เราสองคนเอามาคุยกันมันช่างมีมากมายเสียจริง วันหลังน่าจะอัดเทปและลองเอามาถอดเทปคงได้หนังสือหลายเล่มเกวียนอยู่ดอก เป็นการคุยที่มีอรรถรส และได้ใช้สมองตลอด ดึงข้อมูลจากฐานข้อมูลที่บางอันไม่เคยถูกเปิดลิ้นชักหลายปี การคุยอย่างนี้ถือเป็นการบริหารสมองได้ดีนักแล แต่ก็เกรงใจแม่น้องเขาเสมอที่มาคุยกะลูกเขานานๆ บางวันก้ทำให้กลับบ้านมืดค่ำ แต่ก็ช่วยไม่ได้


ในพะเยาจะหาใครคุยแบบนี้ได้คงไม่มี (น่ามหัศจรรย์จริงๆ ) หรือเป็นเพราะคนบ้าย่อมคุยกะคนบ้ารู้เรื่อง นี่น่าจะเป็นไปได้สูงกว่าข้อวินิจฉัยอื่นๆ


ท่ามกลางผู้คนที่พยายามมาดึงด้าย สายสิญจ์บนหัวพวกเรา ค่ำคืนนี้เรื่องสนทนาในวิหารวัดหลวงของเราพูดถึงประเทศเกือบทั่วโลก หนักไปทางรัสเซีย ค่อนมาทางอินเดียในตอนท้ายของการสนทนา ด้านบุคคลก็พูดถึงท่านพุทธทาสมากหน่อย ผู้คนคงจะงงๆกะไอ้สองตัวที่ที่มานั่งคุยกันกลางวิหาร พร้อมมีเศษกระดาษที่เป็นบทความของจักร ที่เขียนไว้เกี่ยวกับประเด็นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโมสาร์ท จนถึงพุทธทาส


ใจจริงอยากจะไปนั่งกินข้าวหน้าอนุบาลกะจักรเพื่อคุยต่อ แต่นึกดูตังค์มีอยู่สามบาท อีกทั้งก็กินอะไรแสลงมากไม่ได้ก็กลับบ้าน


กลับมาที่บ้าน ตั้งขาตั้งกล้อง ส่องพระจันทร์ รู้สึกเอาว่าขอบตำแหน่ง 8 นาฬิกามันแลดูมัวๆ มืดกว่าทุกครั้งที่ส่อง แต่ก็คิดว่า จันทรุปราคา นั้นน่าจะบังเป็นเงาชัดๆกว่านี้ ก็เลยโทรหาอะตอมว่า ข่าวดังกล่าวมีมูลหรือไม่ ทำไมมันไม่บังจะๆ อะตอมก็กำลังส่องอยู่ก็บอกเช่นกันว่า ตากยุงมานานสองนานก็มิเห็นจะมีการบัง



ตอนหลังมาดูทีวีก่อนนอนพบว่า จันทรุปราคาครั้งนี้เป็นแบบเงามัว นั่นคือเงามัวบังว๊อบๆแวมๆนั่นเอง ก็ถึงบางอ้อว่าทำไมมันไม่บังซักกะ แต่รูปที่ถ่ายนั้นกดชัตเตอร์ในเวลากว่า สองทุ่มกว่าๆมากแล้ว ไม่แน่ใจว่านั่นคือเงาของโลกที่เสือกไปถูกเข้ากะผิวอันบอบบางของดวงจันทร์หรือไม่


อาจจะเป็นเฆฆก็ได้ แต่อย่างไรถ้าผู้รู้ด้านดาราศาสตร์ผ่านมาช่วยวิเคราะห์ทีว่าใช่ปะ


ข้ามมาเย็นวันนี้ ขณะกลับมาจากการออกกำลังกาย วันนี้พระอาทิตย์ตกอยู่หน้าบ้าน อาจหลาด (ไม่รู้ว่าอาจ-หลาด แปลว่าอะไรแน่ แต่เป็นคำเหนือที่เท่ห์ดี ความหมายน่าจะประมาณ จะๆ โต้งๆ เห็นๆ ผิดก็ขออภัย)





ช่วงนี้สังเกตุว่า พระอาทิตย์มีอาการบวมผิดปกติ ไตน่าจะมีปัญหา เหมือนคนบวมเหล้า ภาพพวกนี้ถ่ายหน้าบ้าน ซูมไปขณะที่พระอาทิตย์กำลังตกอยู่หลังต้นจามจุรี ก้ามปู และฉำฉา
วันนี้ก็เลยทำให้นึกถึงเย็นวันนั้น พระอาทิตย์ลูกใหญ่มากกำลังจะตก ตอนนั้นในตัวมีแต่มือถือ ก็เอามือถือนั่นแหละถ่ายรูป นี่ขนาดเอามือถ่าย ลูกมันยังใญ่ขนาดนี้ เห็นมั้ยครับ มันกำลังจะตกไปโดนดอยหนอก ตอนผมจอดจักรยานถ่ายรูปก็มีชาวบ้านจอดดูพระอาทิตย์ตกหลายคันเหมือนกัน นั่นคงเพราะพระอาทิตย์มันลูกใหญ่ผิดสังเกตุ และนี่เองที่เป็นสาเหตุของโลกร้อน (นี่ถ้าผมแบกกล้องธรรมกายผมมา คงเห็นภาพพระธาตุดอยหนอกและพระอาทิตย์คู่กันเป็นแน่แท้)


และนี่ก็เป็นตัวอย่างของการเอาสิ่งที่ไม่เป็นเรื่องเป็นราว มาเล่าเป็นเรื่องเป็นราว มาติดตามข่าวอื่นๆรอบวันกับข่าวรอบพะเยา วันนี้1.บีเอ็มซิ่ง น้ำมันพุ่งละแลงถนน
เกิดเหตุรถเฒ่าบีเอ็ม ท่อน้ำมันรั่ว ทำให้น้ำมันไหลเป็นทางจนหมดถัง แจ้งศัลแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเย็บแผลนานกว่าหกชั่วโมง หลังผ่าตัดต้องไปซื้อน้ำมันใส่แกลลอนมาเติม เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความเสียวไส้แก่ผู้พบเห็น โชคดีที่ไม่มีประกายไฟขณะน้ำมันรั่ว

2.(หนุ่มพะเยาโวย ศูนย์มั่วสลับยาง โร่แจ้งศาลปกครอง)
พนักงานฟอร์ดเชียงราย สลับยางรถทั้งๆที่ไม่มีใครสั่ง เจ้าของรถเพิ่งสลับยางมา เข้าไปเช็ครถเพราะสัญญาณเตือนภัยรถทำงานตลอดจนไม่รู้ว่าภัยที่มันเตือนคืออะไร ขับออกมาเห็นใบเสร็จว่าสลับยางจึงเข้าไปอีกรอบเพื่อให้มันสลับอีกที ผู้เสียหายรี่เข้าแจ้งความและดำเนินคดีเพ่งแก่ทางศูนย์เรียกเงินกว่า 20 บาท
ล่าสุดประธานฟอร์ด อเมริกาออกแถลงการรับผิดชอบ พร้อมขอต่อรอง 15 บาทขาดตัว

3. กรมศิลปตะลึง รูปวาดโบราณ นานกว่าวัดกลางกว้าน

หลังจากที่กรมศิลปากรที่16 รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า ในครัวนอร์บูลิงการ์มีการพบการเพ้นท์ลวดลายสวยงาม สัณนิฐานว่ามีเด็กมือบอนยุคบุพกาล มือบอนได้แต้มลวดลายไว้

4. ผู้ว่าพะเยาขนลุก ผวาปลาบินได้ ย้ำทุกฝ่ายพร้อมขอหวย

ภายหลังที่ชาวบ้านได้ร่ำลือกันว่า พบปลามังกรเหาะได้ ณ. หนุ่มอาควาเรี่ยม ผู้ว่าพะเยาไม่รอช้า สั่งทุกฝ่ายเตรียมอุปกรณ์ขอเลขเด็ด ข้าราชการในจังหวัดครวญ งบขอหวยล่าช้า หวั่นมีปัญหา


๔ ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

สนุกมากเลยอะพี่ตาร์ อ่านไปยิ้มไป
จินตนาการเห็นภาพเป็นฉากๆ เหมือนได้ไปด้วยเลยอะ
ถ้าเขียนหนังสือ ขอสมัครเป็นแฟนคลับนะ
ชีวิตบนโลกใบนี้ บางทีก็ต้องทำตัวให้บ้ามั่งก็ดีจ๊ะ
เท่าที่เล่ามานี่ จิตร์ภูมิศักดิ์จูเนียร์ น่าทึ่งจิงๆเนอะ
พี่ตาร์เป็นศิษย์ ท่านติช นัท ฮันห์ แห่งหมู่บ้านพลัมจริงเหรอ
นั่นสินะ ขนาดองค์ทะไลลามะยังเคยเจอมาแล้วเลย
ต้องตรวจเข้มสภาพรถคุณลุงเป็นพิเศษแล้วล่ะพี่ตาร์ อันตรายน่ะ

ปล.ถึงแม้สังขารจะไม่เที่ยงก็จริง แต่เราต้องดูแลมันหน่อยนะพี่ตาร์
อโรคา ปรม ลาภา นะจ๊ะ ตอนเด็กๆเราก็มีหอบหืดเป็นโรคประจำกายเหมือนกัน อย่าว่าแต่วิ่งเลย เดินยังเกือบตาย หายใจไม่ทัน
นับแต่นั้นมาก็ออกกำลังกายมาตลอด สิบกว่าปีละ
ตอนนี้หายแล้ววิ่งได้สบายมาก
นึกๆแล้วก็ต้องขอบคุณโรคหอบหืดเหมือนกันนะเนี่ย
ตอนนี้กลายเป็นโรคติดการออกกำลังกายแทนซะงั้น
เหงื่อออกแล้วสดชื่นดีออก

ถ้าพี่ไม่อยากกินยาก็อย่ากินเลย เราก็คนนึงที่ไม่ชอบกินยาอะ
แค่เปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตเราก็ได้
ใช้วิธิโภชนาการบำบัดกะออกกำลังกายแทนสินะ
ชวนจูเนียร์ไปสนทนาธรรมที่ประมงก็ได้นะ เดินไป วิ่งไป อากาศบริสุทธิ์มากเลยอะ สู้ๆนะผู้จัดการ...

อดิศักดิ์ ด่านพิทักษ์ กล่าวว่า...

ขอบคุณมากนะคร้าบ สำหรับการบอกทางวันนี้

พอไปถึงก็...อ้าวนี่มันร้านประจำไอ้แจ็คนี่หว่า

มาทุกที แต่ไม่เคยจะจำ (นี่อาจจะเป็นโรคใหม่ที่ ร.พ.พะเยายังตรวจไม่เจอ จุ๊..จุ๊..ต้องพูดเบาๆ เดี๋ยวมันได้ยิน จัดยาให้อีก )

ได้มานั่งอ่านที่ตัวเองเขียน กร้าวร้าวเหมือนกันนะ ไอ้นี่ ชิ ชิ ไม่น่าคบ ปากคอเราะร้ายจัง

เรื่องติช นัท ฮันท์นั้น ตั้งใจเขียนล้ออาจารย์ของผมอีกทีที่เป็นคนแปลหนังสือหลวงปู่เรื่องปาฏิหาริย์แห่งการตื่นอยู่เสมอ แกเป็นคนขี้ลืม ขนาดที่ว่ากำลังจะไปอังกฤษถึงสนามบินแล้ว โทรมาบอกผมว่า พี่ลืมพาสปอร์ต ต้องตีรถจากนครนายกไปดอนเมืองอย่างสนุกสนาน เราก็เลยแซวๆกันว่านี่ขนาดคนแปลนะเว้ยยังได้ขนาดนี้ คนเขียนท่าจะหนัก -หนังสือส่วนใหญ่ของแกจะถูกแปลเป็นไทยโดยอาจารย์ผมอีกที ผมก็อ่านๆหลายเล่ม เอามาใช้มั่ง ไม่ใช้มั่ง บางเรื่องก็ถือแกเป็นอาจารย์ทางธรรม แต่ไม่ได้เป็นศิษย์โดยตรง เพราะภายหลังแกมีชื่อเสียงก็กลายเป็นไข่ในหิน ที่ยากแก่คนนอกจะเข้าพบได้ (เรื่องเล่าขวัญหลวงปู่นั้นมีเยอะ แต่ก็ไม่รู้ดิเนอะ พระพุทธเจ้ายังมีคนนินทาเลย นับประสา..)

อันยานั้นอยากเลิกใจจะขาด แต่วัดความดันล่าสุดสูงถึงเกือบร้อยห้าสิบ คอเรสเตอรอลไปที่ 342 ก็คงต้องกินแล้วน้องเอ๋ย มีโอกาสหัวใจวายนะนั่น ล้อเล่นไป

ส่วนการกินคงต้องปฏิวัติแหละ เฮ้อไม่น่า ไม่น่า

อย่าลืมไปเช็ค สุขภาพกันหละ อะไรซ่อนอยู่ในตัวเรามากมาย (ทั้งที่อยากรู้ และไม่อยากรู้ ...บรื๋อ..)

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เหมือนกำลังนั่งคุยกับพี่อยู่เลย สนุกดีจัง

ดูแลสุขภาพเยอะๆนะคะ มาเชียงรายให้ได้นะ

กำลังจะไปดูหนังเรื่อง once รอบที่เท่าไหร่ไม่รู้

สมองตันๆ ไปดูหนังกันดีกว่า ดูด้วยกันไหมคะ

อดิศักดิ์ ด่านพิทักษ์ กล่าวว่า...

Once in the motion picture รึเปล่า

ผมมีอัลบั้มเพลงประกอบมันด้วยนะ เดี๋ยวเอาไปให้ก๊อป ถ้าอยากได้ เชื่อมั้ยว่า พระเอกที่เล่นกีตาร์ กับนางเอกที่เล่นเปียโน มันรักกันจริงๆนะ นอกจอ มันแสดงจนมันรักกันจริงๆอะ ผมดูผมยังเชื่อเลยว่าเขารักกันจริงๆ

เพลงเพราะมั่กๆ แล้วมันฉายที่ไหนหละนั่น (ลิโด้ยังเข้าแค่ไม่กี่วันเอง)

ชอบๆ อยากดูด้วยจัง