ปีนี้ ครูดิน ได้นำเด็กๆมาแสดงละครเรื่อง ตำนานสามกษัตริย์ ประกอบแสงสีเสียง ด้วยความบังเอิญที่ได้พบเห็นการซ้อมใหญ่ จึงติดตามมาดูและให้กำลังใจ ทั้งผู้กับกำและเด็กๆจากประชาบำรุง ในแง่การแสดงและการคุมองค์ประกอบพื้นฐานถือว่า ไปได้สวย ภายใต้งบประมาณ และเวลาที่จำกัดเช่นนั้น
ในช่วงท้ายๆ มีการโยงประวัติศาสตร์ล้านนาเข้ามาสู่ความเป็นชาติไทย ได้อย่างข้างๆคูๆ และที่น่าอดสูก็คือกลายมาเป็นการสรรเสริญ สถาบันกษัตริย์ในปัจจุบัน โดยที่คนดูยังมองไม่เห็นภาพเลยว่ามันเกี่ยวพันกันอย่างไร ต้องทำใจเสียแล้วว่าการสรรเสริญสถาบัน แม้จะเป็นการสรรเสริญอย่างเลื่อนลอย ไม่มีเหตุมีผล ก็นับกลายเป็นประเพณีนิยม เป็นสิ่งที่ทำให้หน่วยงานนั้นๆรู้สึกมั่นคงปลอดภัย และในบางครั้งใช้มาแอบอ้างหาผลประโยชน์ได้ง่ายๆ อย่างเช่นการทำสะพานลอยทองคำ -การนำรูป 9 รัชกาลมาทำเป็นซุ้มครอบถนน -หรือแม้แต่รูป ราชา หรือ ราชินี ที่เราพบเห็นทั่วไปตาม 4 แยก -เหล่านี้เป็นสิ่งที่ยืนยันถึงความจงรักภักดีของนักการเมืองท้องถิ่น หรือประชาชนได้จริงละหรือ
จากการสัมภาษณ์นาง ก.สาววัยดึกเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายซานติกว้านผับเล่าเหตุการณ์สยองให้พวกเราฟังด้วยน้ำตานองหน้าว่า
ตนเองได้รับอนุญาติจากหลานชายให้เดินทางมาเที่ยวงานพ่อขุนพร้อมเพื่อนๆในกลุ่มชมรมผู้สูงอายุ แต่หลังจากที่ได้ดื่มเหล้าวันเกิดฉลอง 65 ปีของนาง ม.ก็เกิดความคึกคะนองชักชวนเพื่อนๆในกลุ่มผู้สูงอายุเข้ามาหาความสำราญในซานติกว้านผับ ขณะที่ตนกำลังสนุกสนานจากการเต้นรำ วงร๊อกชื่อดัง "เปี้ยกบ้านทุ่ง" ได้เปิดเพลงสามช่าภาษาเขมร ทำให้บรรดาเพื่อนๆขาแด้นส์จากกลุ่มแม่บ้านตำบลอื่นๆกรูกันขึ้นมาบนเวทีเพื่อขึ้นไปโชว์ลวดลายบนเวที
ล่าสุดมีรายงานข่าวว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บส่วนใหญ่สามารถกลับมาเต้นต่อหลังจากที่ได้ดมเอมโมเนีย และซ่อมแซมพื้นเวทีแล้ว มีแต่เพียงนางก. ที่ยังมีอาการผวาจึงได้นั่งจิบเบียร์ริมเวทีเงียบๆคนเดียว
จากการสอบสวนของกำนัน ต.แต๋ม พบว่านอกจากจะมีการปลอมลายเซ็นต์ของวิศกรที่ทำเวทีแล้ว ผับแห่งนี้ยังไม่ได้รับอนุญาติจากทางเทศบาลอย่างเป็นกิจลักษณะ เรื่องนี้ทางดีเอสไอ้จึงได้มารับคดีเพื่อสอบข้อเท็จจริงต่อไป
ด้านนายเปี้ยก เจ้าของผู้ถือหุ้นใหญ่ในซานติกว้านผับได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบ
ออกบัตรเต้นฟรีตลอดชีพให้แก่ผู้ได้รับบาดเจ็บเพื่อเป็นการปลอบขวัญทำให้มีผู้แอบอ้างว่าได้รับความเสียหายเข้ามาสวมรอยเป็นจำนวนมาก (บางรายถึงขั้นสร้างบาดแผลให้ตนเพื่อได้รับสิทธิ)
เรื่องดังกล่าว รัฐมนตรีว่าเกินกระทรวงวัฒนธรรม มีความเห็นว่า ลูกหลานของผู้สูงอายุเองควรหมั่นเฝ้าสังเกตุปู่ย่าตายายของตนว่ามีการใช้เงินฟุ่มเฟือยหรือไม่ และไม่ปล่อยให้ท่านไปเที่ยวสถานบันเทิงตามลำพังหรือกับกลุ่มเพื่อนที่ไม่น่าไว้ใจ
ในขณะที่กลุ่ม 108 ส.ว.จะได้ร่วมกันยื่นเสนอแก้กฏหมายให้มีการตรวจบัตรผู้สูงอายุในสถานบันเทิงต่อไป
เหตุการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า สังคมไทย ปล่อยปะละเลยกลุ่มผู้สูงอายุให้เป็นคนชายขอบ ไม่มีการควบคุมดูแลพฤติกรรมอย่างเหมาะสม ปล่อยให้เกิดพฤติกรรมการเลียนแบบดารา นักร้อง ทำให้ผู้สูงอายุก่อปัญหาทางสังคมและตกเป็นเหยื่อของค่านิยมผิดๆเป็นอันมาก
นับเป็นอุทาหรณ์แก่ผู้สูงอายุทั้งหลายว่าไม่ควรคึกคะนองเกินวัย ขอให้หมั่นศึกษาธรรมะ รู้จักเลือกคบเพื่อน และเลือกรับสื่อ ไม่ควรถูกชักนำไปกับค่านิยมที่ผิดๆทีฟุ้งเฟ้อจากดารา นักแสดง เรียนรู้ที่จะทำกิจกรรมดีๆจากเด็กรุ่นใหม่ จะได้ไม่หลงใหลไปสู่อบายมุขทั้งปวง
๒ ความคิดเห็น:
^__________^
ไม่ว่าจะถ่ายมุมไหน
พี่แจนก็น่าร๊าก จิงๆ
อิอิ
ซานติกว้านผับ นี่เกินบรรยายจิงๆ
เดี๋ยวนี้ผู้สูงอายุของชาติทำตัวเหลวไหลใหญ่แล้วนะ
ไปเที่ยวกะอาจารย์แจนอีกละ ตัวติดกันใหญ่แล้วนะ
เรื่องสะพานลอยนั่นธุรกิจเห็นๆ ฟันไปหลายล้าน
แต่ตัวสะพานลอยคงไม่กี่ตังค์ ต้องทำเวอร์ๆไว้ของบประมาณ
ปล.คุณพี่ต้าร์จ๋า ไฟล์เพลงที่ก๊อปให้เราน่ะ เป็นไฟล์ flac อะ
เล่นไม่ได้อีกตามเคย มิน่าล่ะเครื่องmp3เรามันถึงมองไม่เห็น
รอบที่สามแล้วนะ เริ่มงอน ดีนะที่ให้สอน พอมา rip เอง
Windows Media Player ไม่ได้ update
มาเป็นชาติ เวอร์ชั่นที่มีอยู่ ไม่มี rip เพลง
ต้อง download V.10 มา ตอนนี้ripเพลงมาไว้ในครอบครองเรียบร้อยแล้วล่ะพี่ต้าร์เอ๋ย
แสดงความคิดเห็น