เปิดบริการทุกวัน Open Daily 7.00 -19.00

เปิดบริการทุกวัน Open Daily 7.00 -19.00

๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๐



ปฏิบัติการอัปยศ

นานเท่าไรแล้วที่ Everest ได้หลับใหลมายาวนานอย่างพ้นยุคพ้นสมัย
กระทั่งไม่นาน มนุษย์ตัวจ้อยก็เกิดความ อหังการ บ้าบิ่น ท้าทายธรรมชาติ โดยเฉพาะสิ่งที่ใหญ่ที่สุด สูงที่สุด
มนุษย์น้อยตัวจ้อย พากันนำพาตีนน้อยๆ ตีนแล้ว ตีนเล่า เหยียบย่ำไปบนยอดเขาที่เขาว่ากันว่ามันสูงที่สุด
บ้างเพื่อทำตามฝัน บ้างอยากมีชื่อเสียงโด่งดัง และในที่สุดก็เป็นตำนานว่า ถ้ามนุษย์ในชาติใดได้พาเอาตีนน้อยๆขึ้นไปปั้มบนยอดเขานั้นได้สำเร็จ รอยตีนและธงชาติ คือเกียรติ ศักดิ์ศรีของประชาชนในชาตินั้น

ในมุมมองของคนที่รักภูเขา Everest นับเป็นความฝันอันสูงสุดยุคทุกสมัย ของผู้คนทุกประเทศ แน่นอน มันเป็นเรื่องที่มีเกียรติอย่างยิ่งกับการที่มนุษย์ตัวเล็กๆยอมแม้กระทั่งที่จะสละชีวิตตัวเองเพื่อทำตามความใฝ่ฝันที่สูงส่ง มันเป็นการเดินทางที่ทำให้มนุษย์ธรรมดาได้เข้าใกล้ความยิ่งใหญ่ของพระผู้เป็นเจ้า และก็เข้าใกล้นรกที่แสนโหดร้ายในเวลาเดียวกัน ในแง่บทเรียนระหว่างทาง ผมเชื่อว่ามันสอนเราเรื่องความอ่อนน้อมถ่อมตนมากกว่าอหังการ การที่คนไทยถูกบริษัทที่คิดแต่เรื่องกำไร และสถานีโทรทัศน์ที่เห็นเงินคือพระเจ้า สร้างปาหี่จูงจมูกคนไทยขึ้นมาบนยอดเขาอันศักดิ์สิทธิ์ โดยพวกเขาอ้างว่า นี่เป็น ปฏิบัติการเกียรติยศ

เกียรติยศนี้ จะสอนอะไรแก่คนล้าหลังคลั่งชาติส่วนใหญ่ ที่ยังเชื่อว่า พม่า นำทองจากกรุงศรีอยุธยาของพวกเขาไปเสียหมดสิ้น (เขาคงเชื่อว่าถ้าทองพวกนั้นยังอยู่เขาอาจจะไม่จนบัดซบอย่างนี้)


การใช้คำว่า ปฏิบัติการเกียรติยศ ของสถานีโทรทัศน์ที่ควรจะถูกสั่งปิดไปตั้งนานเช่น ไอทีวี กับบรรษัทที่ร่ำรวยอย่าง เอไอเอส และบรรษัทข้ามชาติใหญ่ๆที่ต่างมีผลโยชน์แอบแฝงและโจ่งแจ้ง ในการพิชิตยอดเขาครั้งนี้ นับเป็นปฏิบัติการสุดอัปยศที่สะท้อนให้เห็นถึงความอัปลักษณ์ของระบบทุนนิยม



แน่นอนว่า คำว่าเกียรติยศ ในครั้งนี้มีความหมายอย่างที่อาจารย์นิธิเคยแปลไว้ คือเป็นเรื่องของหน้าตา หาใช่ศักดิ์ศรี หรือเกียรติที่มาจากรากของคำว่า Dignity แต่อย่างใดไม่ เพราะคนดูก็ไม่เห็นว่า ปฏิบัติการถ่อสังขารครั้งนี้ จะชี้ให้คนไทยเห็นถึง ความดี ความงาม ความจริง แต่อย่างใด

การจัดฉากครั้งนี้ทำในรูปแบบของเกมโชว์ เต็มไปด้วยโฆษณาแฝง และพยายามโยงว่าเรื่องนี้ถ้าทำสำเร็จจะเป็นหน้าเป็นตาของประเทศ เป็นเกียรติยศของประชาชนประเทศชาติ

ถ้าปฏิบัติการนี้มีข้อขัดข้อง มีคนตาย สำนักพระราชวังจะมอบน้ำหลวงอาบศพ หรือจะเอาธงชาติคลุมศพกลับประเทศอย่างสมเกียรติอย่างนั้นละหรือ ?

เราควรยึดปาหี่ที่บรรษัทมือถือสร้างขึ้นมา เป็นสรณะของประเทศอย่างนั้นหรือ ?

กลุ่มโอเปกจะยอมลดราคาน้ำมันถ้าคนกลุ่มนี้ขึ้นไปสูดอากาศบนนั้นได้จริงหรือ?

สมัคร หมีควายมันจะยอมทำลายตัวเองเพื่อสันติสุขของโลกอย่างนั้นหรือ?


จะมีคนไทยกี่คนมองเห็นถึงผลประโยชน์ของบรรษัทที่คิดเกมนี้ขึ้นมา และกี่คนจะเห็นอันตรายของวิธีคิดแบบชาตินิยม

อย่างนี้อย่างไรก็ตาม การเดินไปบนภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์ ด้วยหัวใจที่บริสุทธิ์ ย่อมเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์
สำหรับคนที่ได้ย่างเท้าขึ้นไปบนนั้นแล้วละก็ ....อย่างน้อยเมื่อกลับลงมาหัวใจย่อมมีความลุ่มลึก
ย่อมมองเห็นโลกในทรรศนะถีที่พ้นไปจากมายาคติไม่มากก็น้อย

ไม่เหมือนบรรษัทชั่วช้าที่ต้องการเห็นแค่ กำไร ที่แม้จะเพิ่มขึ้นทุกปีบนความบรรลัยของประชาชน



คุณพิบูลศักดิ์ ละครพล เดินทางมาแจกลายเซ็นต์ถึงในร้าน


เพื่อนจากแม่ฮ่องสอนและเชียงราย สองในหกพันกว่าคนที่เดินทางมาสอบเพื่อบรรจุเป็นข้าราชการ

6000 กว่าคน คัดเอา สองร้อยกว่าคน ใครจะเป็นผู้โชคดี เฮ้อ......ประเทศไทย



มุมใหม่ในร้านเก่า



โมโม่ก็มาเยี่ยมชม



และเมื่อปลอดลูกค้าเราก็ทำตัวตามสบายอย่างที่เห็น

หิน...นคร

วันนี้นับว่าฤกษ์ไม่ดี
ปั่นจักรยานริมกว๊านดีๆ
ดันเจอผู้ว่าราชเกิน (คนหัวล้านเสื้อเหลือง)
และซวยหนักไปอีกเมื่อเจอ รัฐมนตรี
(ท่องเที่ยวกับกีฬา มันไม่เห็นจะเกี่ยวกันเลย)
(หัวหงอก เสื้อขาว : เขามาจากการแต่งตั้งของทหารบ้าอำนาจ)



บรรดาลูกกระจ้อกที่ถูกเกณฑ์มาเป็นหน้าม้า

จากการสูดดม พบว่า เขาตั้งวงเสวนากันในเรื่องที่ฮิตมากในพะเยา
นั่นคือการท่องเที่ยว คุยเรื่องเดิมว่า จะลากคอคนจังหวัดอื่นมาจังหวัดเราได้อย่างไร
ที่สำคัญ พวกมันมาแล้วต้องควักเงินใช้ในจังหวัดเราด้วย

ทนฟังอยู่นานกว่าสองนาที ถ่ายรูปพวกนี้เสร็จก็มาเจอกับ....หิน
หิน...ก้อนใหญ่มาก ดูแล้ว ไม่น่ามีความสวยงาม
แต่มาอยู่ริมกว๊านพะเยา

ถ้าผมเป็นท่าน รมต. และบังเอิญแหกตาเห็นหิน ผมต้องถามผู้ว่าทันที
อย่างสุภาพว่า ...นี่มันหินเหี้ยอะไรครับ?



พูดถึงเรื่องหิน... มีโครงการมาให้ดู
ชื่อโครงการ : ปรับแต่งภูมิทัศน์ ถนนร่มรื่น เมืองน่าอยู่

หลักการและเหตุผล
ชัยภูมิของจังหวัดพะเยานี้นับเป็นเพียงเมืองผ่านไปยังจังหวัดอื่น ที่ผ่านมา เศรษกิจของเมืองพะเยาไม่มีการไหลเวียนโดยสะดวกเท่าที่ควร ตามทฤษฎีแล้วการท่องเที่ยว นับเป็นคาถาอันวิเศษ ศักดิ์สิทธิ์ จะสร้างรายได้ เม็ดเงินมหาศาลให้หมุนเวียนใน จ.พะเยา ส่วนที่ว่าเม็ดเงินจะไปหมุนเวียนในกระเป๋าผู้ใดบ้างนั้น ไม่ใช่ภาระหน้าที่จะต้องทราบ เอาเป็นว่า เงินจะเข้ามาในจังหวัดเราก็แล้วกัน

จากเหตุผลดังกล่าว ทางผู้บริหารเมืองเห็นว่า พะเยา จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องหาจุดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์
จากผลการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ณ.โรงแรมแห่งหนึ่งย่าน พัฒพงษ์ ทางผู้บริหารได้ มีมติว่า
หิน แสดงอัตลักษณ์และตัวตนของชาวพะเยาได้ดีที่สุด ดังเหตุผลดังต่อไปนี้

1. แต่โบราณนานมา ช่างแกะหินทรายเมืองพะเยานับเป็นสกุลช่างที่เก่งที่สุด หินจึงเป็นตัวแทนที่ดีที่สุด
2. หินแสดงถึงความหนักแน่นของชาวพะเยาที่มีมาแต่โบราณ (ตำนานเล่าว่า พะเยาต้องเป็นเมืองร้างกว่าหกสิบปีเพราะพากันหนีคราวเงี้ยวห้าร้อยคนบุกเมือง แต่ตกใจหนีเพราะมีคนตะโกนว่ามากันห้าพัน )
3. แสดงถึงความวิริยะอุตสาหะอันเป็นพื้นนิสัยคนพะเยา

และ ในวโรกาสที่พระเจ้าอยู่หัวจะมีพระชนมายุครบ 80 พรรษา
ดังนั้น ทางจังหวัด จึงได้จัดทำโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์ในเมืองพะเยา
ให้มีความร่มรื่น สมกับที่เป็นเมืองน่าอยู่ ทั้งนี้ จะต้องสอดคล้องกับแนวคิดเรื่องหิน ดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น



ช่วงนี้ ผมพยายามคิดแทนผู้บริหาร
หลังจากที่สังเกตเห็นว่า มีผู้นำหินก้อนใหญ่สุดอลังการ
มาวางไว้ในร่องกลางถนนสี่เลน บริเวณถนนสายหลักสายหนึ่งในเขตจังหวัดพะเยา
ผมร่างโครงการนี้ขึ้นมาเพื่อให้ตัวผมเองสบายใจ
ปลอบใจตัวเองว่า การที่หิน ไปอยู่กลางถนน มันเป็นเรื่องที่มีเหตุ มีผล

ด้วยถนนเส้นนี้เป็นถนนสายหลักผ่านไปได้ทั้ง
จ.ลำปาง จ.เชียงราย และอำเภอห่าเหวอีกมากมายในจังหวัดนี้
ผู้สัญจรจึงไม่ใช่แค่เพียงแต่ชาวพะเยาเท่านั้น
ที่สามารถมองเห็นความมหัศจรรย์นี้
แต่ประชากรในจังหวัดอื่นต่างก็ล่ำลือ
ถึงความงามอันยิ่งใหญ่ของหินดังกล่าว

ตามทฤษฎี

สิ่งที่ควรจะอยู่บริเวณเกาะกลางถนนมากที่สุดน่าจะเป็น ไม้พุ่มเตี้ย
เพราะไม้ดังกล่าวนอกจากจะ ไม่บดบังทัศนะวิสัยของผู้ขับขี่แล้ว
ยังช่วยชะลอความเร็วและรองรับแรงกระแทก
กรณีรถเสียหลักลงเกาะกลางถนน

ข้อมูลกระซิบ

หินดังกล่าวถูกเก็บไว้ในโกดังของผู้รับเหมารายหนึ่งมานาน
นานจนต้องคิดกันว่า จะระบายของชิ้นนี้ออกไปอย่างไรดี
และในที่สุด มันถูกกระจายไปวางตามจุดต่างๆทั่วเมืองพะเยา
ในนามแห่งความสวยงามในสายตามนุษย์บางพวก

อย่างไรก็ดี เมื่อมีหินมาตั้งตระหง่านกลางถนนอย่างนี้
ไม่นาน อุบัติเหตุที่คาดฝันก็พลันจะบังเกิด
ถึงเวลานั้น ผู้รับผิดชอบควรเป็นใคร
ลองใช้หัวแม่ตีนคิดกันเล่นๆว่า เมื่อรถที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูง
เสียหลักวิ่งเข้าชนหินก้อนใหญ่ๆ สภาพศพคนขับจะเป็นอย่างไร?

ในกรณีที่ท่านไม่มีหัวแม่ตีน ท่านน่าจะมีเศษสมองติดใต้กะโหลกอยู่บ้าง ....

แนะนำว่าลองนำหินไปบดหยาบๆรับประทานแทนข้าว
อาจจะช่วยให้เศษสมองใต้กะโหลกเพิ่มปริมาณขึ้น
อีกทั้งอาจช่วยให้ต่อมรับทัศนีย์ภาพ
เห็นความสุนทรียะบนโลกมากกว่าเศษเงินที่ได้จากผู้รับเหมา

ภาวนาให้หินก้อนสุดท้าย ตั้งตระหง่านบนแต่เพียงบนหลุมฝังศพของท่าน
(ในกรณีที่ท่านยังมีแผ่นดินอยู่)







ก่อน......ทุกอย่างจะสายไป
ก่อน.......เมืองของเราจะมีแต่หินโสโครก
ก่อน.....คนใจหิน ..จะทำระยำตำบอนกับเมืองของเรา

พวกเราเหล่ายอดมนุษย์ ถึงเวลาแล้วที่ต้องปกป้องเมืองของเราจาก
ผู้บริหารใจทราม กับผู้รับเหมาโลภมาก
โย่.....