ไปจองมุมตั้งแต่ หกโมงกว่า ซักพักก็มีคนมาเยอะขึ้นเรื่อยๆ
จนเก้าอี้ไม่พอ และต้องจัดฉายขึ้นจอโปรเจคเตอร์ด้านนอกแทน
(จริงๆถ้าจัดกลางแจ้งคงได้บรรยากาศงานวัดกว่านี้ แต่ก็กลัวฝนเนอะ)
โขนตอนที่มาเล่นนี้เป็นตอนที่จะทำให้เราเห็นที่มาที่ไปของ
ศึกระหว่างพระราม กับ ทศกัณฑ์ ว่ามันทีความแค้นข้ามภพกันมาอย่างไร
โชคดีที่ได้อ่านรามเกียรติ์ก่อนมาดู
แต่กระนั้นก็ฟังรู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องมั่ง ภาษาไทยระดับสูงนี่ซับซ้อนดีจริง
กล่าวถึง นนทก (เขียนถูกรึเปล่าไม่รู้) ผู้มีหน้าที่ล้างเท้าให้เทวดาบนสวรรค์ เขามักถูกแกล้งจากพวกเทวดาอยู่เสมอ จนเมื่อเทวดาแกล้งหนักขึ้น ดึงผมจนหัวล้าน นนทกก็ทนไม่ไหว โร่ไปหาพระอิศวร (ศิวะ) เพื่อขอพรให้มีนิ้วเพชร ชี้ใครก็ตาย เมื่อได้นิ้วเพชรมาแล้ว ก็มาล้างแค้นเทวดาหน้าจืดทั้งหลาย
เทวดาพากันหนีตายไปหาพระนาราย
พระนารายจึงปลอมเป็นเทวดานางรำที่แสนงามไปสอน นนทก ร่ายรำ
ช่วงที่รำอยู่นั้น นิ้วเพชรของนนทก ก็ชี้มาที่คนดูแถวหน้าสุด
บัดนี้นิ้วเพชรของนนทก ชี้ตรงมาที่หน้าคนดูผู้มีเกียรติคนหนึ่งท่ามกลางคนดูหลายร้อย
ผู้มีเกียรติคนนั้นเป็นสตรี ตัดผมรองทรงเหมือนผู้ชาย
ตาของหล่อนเบิกโพลง ปากอ้าอย่างลืมตัว ชั่วประเดี๋ยว หล่อนก็สิ้นสติและหยุดหายใจ
ผมเห็นท่าไม่ดีจึงได้จับเณรมาเป็นโล่มนุษย์และลี้ภัยออกนอกวัดก่อนนิ้วนั้นจะกราดไปทั่วห้อง
ภายหลังได้สอบถามชาวบ้าน ผู้เป็นชาวสวนลิ้นจี่ ต่างบอกเป็นเสียงเดียวว่า
ไม่กี่อาทิตย์ก่อน หล่อน(คนที่ตาย)ไปพูดบอกชาวสวนที่แม่ใจว่า
ถ้าลิ้นจี่ราคาไม่ดี ก็ไปปลูกอย่างอื่น (ซิวะ)
ครั้งนั้นมีเพียงรองเท้าที่เฉียดหัวหล่อนไป
แต่ครั้งนี้ พระนาราย ได้มาปราบยุคเข็ญ ในเมืองพะเยาแล้ว
ขอบคุณ นนทก ผู้ชี้หน้าหญิงเลวผู้นั้น (หล่อนสมควรตายครับ)
ปล.ผู้ใหญ่โปรดใช้วิจารณานในการอ่าน หรือไม่ก็ควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของเด็กๆ
๔ ความคิดเห็น:
ดีจัง ได้ดูโขนด้วย ว่าแต่เค้าเล่นที่วัดไหนอะ ที่แม่ใจรึเปล่า ทำไมพี่ถึงรู้ว่าที่ไหนเค้ามีแสดงอะไรๆเยอะจัง
เค้าไม่ค่อยประชาสัมพันธ์ หรือว่าเราอยู่แต่ในกะลานะ
ชักไม่แนใจ
พูดถึงลิ้นจี่ นี่ราคาตกต่ำซ้ำซากกันทุกปีจริงๆ จังหวัดเรานี่ปลูกลิ้นจี่เยอะเหมือนกันนะ แม่ใจก็เป็นแหล่งนิ
สงสารชาวสวนเนอะ ทำมาทั้งปี กว่าจะได้ขายราคาก็ตกต่ำซะงั้น แถมยังมีคู่แข่งเยอะอีกทั้งมังคุด เงาะ โดยเฉพาะทุเรียน แต่ก็เจอปัญหาราคาตกกันทุกปี แต่ปีนี้ชาวสวนภาคตะวันออกมีเฮ เค้ามี order ซื้อจากกัมพูชากะเวียดนามคอยพยุงราคาไม่ให้ต่ำจนเกินรับไหว
เฮ้อ...รัฐน่าจะดูแลภาคการเกษตรให้มากกว่านี้เนอะ
คงไม่ต้องรอให้เห็นเงินเป็นแค่เศษกระดาษก่อน แล้วถึงจะหันมาใส่ใจปากท้องของประเทศชาติ คิดแล้วก็แอบเศร้าจัง
ปล.แล้วสตรีผู้นั้นตายจริงเหรอพี่ต้าร์ น่ากลัวจัง(ว่าทำมัยตายง่ายดายซะอย่างงั้น คงไม่เกี่ยวกะนิ้วเพชรของนนทกหรอกมั้ง)
โขนที่ว่านี้ เล่นที่วัดหลวงนี่เองจ๊ะ
นี่ถือเป็นการสมโพช ยศหลวงพ่อใหญ่
จริงๆช่วงบ่ายก็มีการจัดเสวนาที่มาของ
ชื่อยศ หลวงพ่อ (พระอุบาลีคุณูปมาจารย์)
ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร
องปาฐกก็เป็นอธิการบดีของมหาจุฬา บินตรงมาจากกรุงเทพเลยทีเดียว
ตอนเย็นก็มีโขนเล่นกันจนดึก
ได้ยินมาว่า รองอธิบดีกรมศิลป์นั้นเป็นคนพะเยา และเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อด้วย
โขนจึงได้มาแสดงที่พะเยา แต่ก็มีหลายหน่วยงานทีเดียวที่ร่วมกันจัด
ครั้งนี้มีรถประชาสัมพันธ์ทุกเช้า ป่าวประกาศอยู่ตั้งหลายวัน (นั่งในแบ๊งค์คงไม่ได้ยิน อะนะ)
เออ.. ผู้หญิงคนนั้นยังไม่ตายนะคับ
แต่ก็ไม่เห็นถูกย้ายซักที
พะเยาหนอ พะเยา
เมื่อไรเราจะได้เลือกผู้ปกครองเองซะที
อ๋อ...พอรู้แล้วล่ะ ว่าสตรีผู้นั้นคือใคร
น่าเศร้าเหมือนกันเนอะ เพราะกว่าจะได้ย้ายคงอีกนานโข
ว่าแต่เธอเป็นคนพะเยารึเปล่า ที่จะให้ชาวบ้านเทหม้อข้าวตัวเองทิ้ง
แล้วไปปลูกอย่างอื่นแทนน่ะ ลิ้นจี่ไม้ยืนต้นน่ะ ไม่ใช่ถั่วงอก
แสดงความคิดเห็น