เปิดบริการทุกวัน Open Daily 7.00 -19.00

เปิดบริการทุกวัน Open Daily 7.00 -19.00

๑๗ มิถุนายน ๒๕๕๐

ริมถนน


ความเดิมจากตอนที่แล้ว/สิบห้า มิถุนายน/ผมเดินเล่นกับโมโม่ตามถนนเส้นเก่า ขณะเดินผ่านที่เผาศพ ผมเห็นหมาสีขาว ขนยาว มีปลอกคอ นอนหอบเหมือนเพิ่งวิ่งมาราธอนมา,เพราะพอรู้ภาษาหมา เข้าไปสอบถาม รู้เพียงเขาหิวน้ำ จึงหาแก้วพลาสติคแถวนั้นเดินไปตักน้ำใน ร.ร. ...สี่รอบ คงหิวมาก นั่งดูเขาซักพัก นอนที่เดิม แมลงวันเริ่มตอม หายใจหอบ กลับบ้าน ขโมยขันน้ำ อาหารปลาไปวางให้ข้างๆ เผื่อหิว...สิบหก มิถุนายน กลับมาจากร้านกาแฟ พาโมโม่เดินเล่น ผ่านทางเดิม ลุ้น จะตายมั้ยน้อ..เออ ยังอยู่ นั่งได้ คิดๆ ต้องช่วยหละ ช่วยไงดีล่ะ ตัดสินใจ เอาวะ กลับบ้าน ขับรถไปรับสัตวแพทย์ เจรจา นั่งรอหน้าร้าน รอลูกค้ากลับหมด อือ มาก็มาหมอว่า /ที่เกิดเหตุ/พบชายสองคนกำลังมุงดูหมา ทราบภายหลังว่าเป็นคนเลี้ยงวัวหนึ่ง ครูหนึ่ง/ครูทัก เฮ้อ หมอมาพอดี -ทุกคนเห็นหมาตัวนี้ตั้งแต่เมื่อวาน วันนี้ผ่านมาเห็นอยู่ที่เดิมก็ผิดปกติ-หมอเข้าไปตรวจอาการ คลำๆ ข่าวดี ขาไม่หัก ฉีดยาแก้ปวด แก้อักเสบ/ข่าวร้าย แมลงวันมาวางไข่ในขนเพียบใกล้จะเป็นตัวแล้ว-เราต้องการที่ปลอดแมลงวัน /ดีเจวิทยุชุมชน(คนรักทักษิณผ่านมา)-วันจันทร์ผมจะประกาศหาเจ้าของให้ เออ น่าเอาไปลงสกู๊ปข่าวนะ-ครูทำท่าคิดหนัก -ผมน่าจะดูแลมันได้ช่วงนี้-เราได้ยินก็ดีใจ รีบถามบ้านจารย์อยู่ไหนหละครับ ผมจะไปส่งทั้งคนทั้งหมาเลย (เพราะรู้สึกพ้นภาระ)หมอก็ดีใจ -ผมจะไปดูแลฉีดยาให้ด้วย(นี่ก็กลัวต้องเลี้ยง) เออดีจัง ไปถึงบ้านครู เจอหมาห้าตัว แมวอีกเพียบ ถามดูก็ปรากฏเก็บมาทั้งนั้น โอ้ ของเราแค่โมโม่ตัวเดียวก็แย่แล้ว เออคนใจบุญจริงเขาก็กล้าที่จะช่วยเหลือจริงจัง ไม่เหมือนบางคน ใจดีแบบกล้าๆกลัวๆ ช่วยก็ครึ่งๆกลางๆ แค่จะไปเรียกหมอมาก็ไม่ค่อยกล้า จะทำดีนี่บางครั้งก็ต้องอาศัยการตัดสินใจ และพลังอยู่เหมือนกัน เฮ้อ...เรียนเรื่องโพธิสัตว์มาครึ่งปี ไม่เข้าใจ จนวันนี้ก็พอรู้ว่า เมตตา ต้องรวมเข้ากับ กรุณาจึงจะเกิดผล แต่ก็ไม่ง่ายเลยที่จะชนะความเห็นแก่ตัวที่พอกพูนอยู่หนาเตอะในใจเรา วันนี้ก็รู้สึกว่าอย่างน้อยเราก็กล้าตัดสินใจที่จะช่วยเหลือแม้ลึกๆก็ยังรู้สึกลำบากใจ มันไม่ไปด้วยจิตที่เต็มร้อย หลายเหตุการณ์ที่ผ่านมาทำให้กลัวที่จะต้องช่วยเหลือคนอื่น คำพูดหลายๆอย่างที่เคยโดนว่า เช่น เสือกบ้าง แส่หาเรื่องบ้าง ก็สะท้อนมาเป็นระยะ คงต้องฝึกอีกเยอะในหนทางอย่างนี้ เชื่อว่าหลายคนน่าจะรู้สึกประมาณนี้มาบ้าง อาจจะเรียกได้ว่าภาวะกึ่งเมตตา กึ่งกรุณา กึ่งเห็นแก่ตัวก็ได้ ยังดีเรื่องนี้จบลงที่มีคนรับอาสาเลี้ยงหมา นี่ถ้าไม่มีใครเอา เรื่องนี้จะจบลงอย่างไรหนอ เราเองจะกล้าพอที่จะอุ้มหมาเข้าบ้าน หรือมันจะนอนตายที่เดิม น่าสงสัยอยู่จริง.

ไม่มีความคิดเห็น: